ดูแบบคำตอบเดียว
  #17  
เก่า 24-11-2009, 13:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,200 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมทั้งหลายที่เดินทางมาทั้งใกล้และไกล ตั้งใจมาเพื่อทำบุญกฐิน แสดงว่าพวกเรามีบารมี ก็คือ กำลังใจที่เข้มแข็งมาก โดยเฉพาะท่านเจ้าภาพ ก็คือครอบครัวของนายแพทย์ประสิทธิ์ จงเสริมศิริสกุล ท่านเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่นี่มาตั้งแต่ปีแรก ๆ จนบัดนี้ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นเจ้าภาพตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ลูกเรียนปริญญาตรี เรียนปริญญาโทแล้ว

การที่ท่านทั้งหลายเดินทางมา ถ้านับตั้งแต่กรุงเทพฯ ก็ไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้ ๆ แล้ว เนื่องจากว่าระยะทางกรุงเทพฯ - กาญจนบุรี ๑๒๙ กิโลเมตร , กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ๑๔๐ กิโลเมตร นอกจากระยะทางจะยาวแล้วยังขับรถยาก ตอนช่วงเช้ามีหมอกมาก ทางขึ้นเขาก็คดเคี้ยวด้วย แต่ว่าท่านทั้งหลายก็มาได้ทุกปี แสดงออกซึ่งกำลังใจอันแน่วแน่ ถ้าหากว่าเป็นกำลังใจในภาษาบาลีเขาเรียกว่า บารมี บารมีถ้าหากว่าไม่เข้มข้นพอจะทำอย่างนี้ไม่ได้

หลายต่อหลายท่านด้วยกัน มาไกลชนิดสุดเหนือสุดใต้ โดยเฉพาะญาติโยมจากปักษ์ใต้ ตั้งแต่สุไหงโกลกขึ้นมา ยะลา หาดใหญ่ ตรัง ภูเก็ต ฯลฯ ท่านทั้งหลายเหล่านี้มักจะมาก่อนเวลาด้วย คือ มาค้างก่อนสัก ๑ - ๒ วัน เป็นปรกติ ถ้ากำลังใจไม่เป็นปรมัตถบารมี คือ เข้มข้นสูงสุดพอเพียงจะทำเช่นนี้ไม่ได้

ตอนนี้กำลังใจในเรื่องทานบารมีของพวกเราเข้มข้นพอ ไม่ว่าไปอยู่ในสถานที่ใดเราก็พร้อมที่จะเสียสละ การสละออกนี้ที่เห็น ๆ อยู่ คือสละทรัพย์ ทรัพย์สินเงินทองที่เราหามาได้โดยยาก สละออกเป็นการตัดความโลภในจิตในใจเราได้ ถ้าหากเป็นกำลังใจของพระโพธิสัตว์จะสละได้แม้แต่อวัยวะหรือชีวิต ของเราก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน ต้องเดินทางมาไกล ไม่แน่ว่าอุบัติเหตุใด ๆ จะเกิดขึ้นหรือเปล่า ? จะมีการบาดเจ็บล้มตายหรือไม่ ? แต่เราก็ตัดใจมา ก็แปลว่ากำลังใจของเราเข้มข้นแล้ว เหมือนพระโพธิสัตว์ คือสามารถสละทรัพย์ได้ สละอวัยวะได้ สละชีวิตได้

ถ้ากำลังใจของเราถ้าเข้มข้นอยู่ในระดับนี้ ไม่ห่วงใย ไม่กังวลในชีวิตบั้นปลายของพวกเราแล้ว ถ้าหากว่าเรามีปัญญาเพิ่มเข้าไปนิดหนึ่ง เห็นว่าร่างกายนี้มีความทุกข์อยู่เป็นปกติ แม้การทำบุญของเราก็ประกอบไปด้วยความทุกข์ เรามีความปีติรื่นเริงอิ่มใจ อยากทำบุญไม่รู้จักเหนื่อยจักเบื่อก็ตาม แต่ว่าการเดินทางไปไกลทั้งกลางวันกลางคืนก็ต้องเหนื่อยต้องเพลียเป็นปกติ เราก็จะเห็นได้ว่าร่างกายนี้มีแต่ความทุกข์

แต่ท่านทั้งหลายล่วงความทุกข์นั้นได้ คือ ลำบากแค่ไหนก็ขอให้ได้ทำบุญ กำลังใจอย่างนี้ถ้าหากตั้งใจไว้ว่า ร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์นี้เราไม่ต้องการอีก ถ้าหากสิ้นชีวิตลงเมื่อใดก็ตาม เราปรารถนาที่เดียวคือพระนิพพาน ถ้ากำลังใจของเราปักแน่วแน่มั่นคง ตอนที่เราจะตายสามารถยึดเกาะอย่างนี้ได้ สามารถคิดแบบนี้ได้ ถึงวาระเราก็จะไปนิพพานได้ง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2011 เมื่อ 03:52
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา