"อยู่ที่นั่นก็เจอผีหลอก แต่เป็นผีหลอกของคนอื่น สำหรับอาตมาเป็นตัวกวนประสาทหรือไม่ก็คู่ซ้อม ตอนที่พักอยู่ที่ตึกกองทุน ติด ๆ กับตึกเป๊ปซี่ของโยมสุภาพร จากทางด้านวัดเก่า ฝั่งหลวงพ่อ ๔ พระองค์ ถ้าเข้าไปซ้ายมือจะเป็นห้องยาม แล้วก็เป็นศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ ยาวไปจรดโรงเรียนทหารอากาศสงเคราะห์ ทางด้านขวามือก็จะเป็นห้องยาม เป็นตึกขาว เป็นตึกเป๊บซี่ แล้วจึงเป็นตึกกองทุน เป็นตึกเสริมศรี พวกเราไม่รู้จักกันหรอก เพราะเป็นชื่อเก่า ถ้าไม่ทันรุ่นเก่าก็จะไม่รู้จัก
ตึกกองทุนนั้น นอกจากชั้นล่างที่ว่างโล่งแล้ว ชั้นบนยังมีห้อง ทางซ้าย ๔ ห้อง ทางขวา ๔ ห้องใหญ่ ตรงกลางเป็นโถงยาวตลอด อาตมาเดินจงกรมภาวนาไป หมดสภาพตรงไหนก็นอนตรงนั้นแหละ นอนไม่เป็นที่เป็นทาง แล้วก็จะถูกท่านทั้งหลายเหล่านี้ก่อกวนเป็นประจำ
พอนอนภาวนาอยู่ เขาก็เดินมา ตึกไหวยวบไปทั้งหลังเลย คนอะไรตัวหนักขนาดนั้น..! อาตมานอนตะแคงอยู่ หันคนละข้างกับที่เขาเดินมา กะจังหวะที่เขาเดิน พอก้าวสุดท้าย กะว่าอยู่ในรัศมีเท้าอาตมาก็พลิกกลับเตะเลย..เตะเต็มที่..! ปรากฏว่าไม่ใช่คน เป็นลูกแมวตัวเล็ก ๆ กระโดดข้ามเท้าของอาตมาแบบนิ่มนวลมาก แถมรู้ด้วยว่าอาตมาจะเตะตอนไหน
อาตมาก็พลิกตัวตามไปมองแมว เห็นชัด ๆ ว่าหันมายิ้มหวานให้อาตมา แล้วก็เดินทะลุประตูไปเฉย ๆ ลูกแมวบ้านไหนวะ ? เดินทีหนึ่งตึกไหวทั้งหลัง..! เขาแกล้งให้หูตาสว่าง ลุกขึ้นมาภาวนาต่อได้เขาก็พอใจแล้ว เจอแบบนี้มาจนนับครั้งไม่ถ้วน เจอจนกระทั่งกลัวผีไม่เป็น ไม่รู้จะกลัวไปทำไม เพราะเจอจนเบื่อ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-10-2011 เมื่อ 01:39
|