พระอาจารย์กล่าวว่า “มีใครไปซื้อรองเท้าให้เขาเหยียบบ้างไหม ? ดูแล้ววัยรุ่นบ้านเราสมัยนี้ขาดสติขนาดหนัก ซื้อรองเท้าคู่หนึ่งต้องถึงขนาดเหยียบกันปางตาย ราคาคู่ละ ๖,๙๙๐ บาท คนที่ซื้อไม่ได้ไปประมูลกัน ขึ้นราคาไปถึง ๑๕,๐๐๐ บาท อาตมาว่าไปเอาอีแตะที่เขาแกะสลักลายสวย ๆ มาใส่ยังจะดีกว่าอีก คู่ละ ๖๐ บาทเอง มีคนรับแกะสลักรองเท้า เคยเห็นบ้างหรือเปล่า ? จะเอาลายอะไรบอกได้เลย เขารับแกะให้
สังคมบ้านเราเห่อตามแฟชั่นโดยขาดสติ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี อาตมานี่ซาบซึ้งที่สุด เคยซื้อแฟล็ชไดรฟ์ตัวหนึ่งความจุ ๒ กิ๊ก ราคา ๑,๗๒๐ บาท จำมาจนทุกวันนี้ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนลดลงไปเหลือ ๒๙๙ บาท ปัจจุบันนี้แถมฟรีก็ไม่มีใครเอา โทรศัพท์เครื่องหนึ่งออกมา ๔,๐๐๐ บาท หลังจากนั้น ๖ เดือนเหลือไม่ถึง ๒,๐๐๐ บาท ใช้ช้ากว่าเขานิดหนึ่งก็ได้ แล้วรองเท้าคู่หนึ่งหกพันกว่าบาท แต่ละคนที่ไปรุมกันซื้อก็ขอสตางค์พ่อแม่มาทั้งนั้น อะไรจะสิ้นสติกันได้ปานนั้น
เด็กนักเรียน นักศึกษาไปเรียนหนังสือ อาตมาก็สงสัยว่าเอาสมองไปไว้ที่ไหน บางคนนี่หัวถึงเท้าราคาเกือบล้าน กระเป๋าก็ต้องแบรนด์เนม เสื้อผ้าก็ต้องแบรนด์เนม รองเท้าก็ต้องแบรนด์เนม ต้องเข้าสีเข้าชุดกัน ได้แต่คิดว่าถ้าไม่ล้างผลาญพ่อแม่แล้ว คุณจะมีปัญญาหาเงินอย่างไรให้ได้ขนาดนั้น
คนที่ไม่มีก็ตะเกียกตะกายหามาให้ได้ พอไม่มีเทียมหน้าเทียมตาชาวบ้านเขาก็ต้องหาเงินด้วยวิธีพิเศษ อย่างเมื่อเดือนก่อนมีการซ้อมกันจนหูตาปูด เพราะเพื่อนพาไปขายตัวแล้วก็ไปด่าเพื่อนอีท่าไหนก็ไม่รู้ เพื่อนก็ถือว่าตัวเองมีบุญคุณ อุตส่าห์หางานให้ยังจะมาด่าอีก จึงมีการลงไม้ลงมือกัน อาตมาก็เลยอนาถใจว่าสมัยนี้บุญคุณเป็นอย่างนี้กันหรือ ?
อยากดูไหม...อาตมาใช้โทรศัพท์มือถือราคาแพงมากเลย ๗๙๐ บาท ก็ใช้อยู่ทุกวันนี้ โยมโทรมาจะบริจาคเงินล้านก็เครื่องนี้แหละ ไม่เห็นต้องไปใช้ไอโฟน ๖ ไม่เห็นต้องไปใช้ซัมซุงกาแล็กซี่ ต้องบอกอเนจอนาถบ้านเรา คนขาดสติไหลตามกระแสมาก ฟุ้งเฟ้อ ไม่คิดจะร่ำเรียนเขียนอ่านให้มีความรู้จริง ๆ เพื่อที่จะไปทำมาหากิน แล้วบุคคลากรประเภทนี้อยู่ต่อไป ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร ?
จะว่าไปอาตมาก็มีส่วนด้วยที่สอนเขาแล้วไม่ได้ดี วันก่อนเพิ่งจะอบรมเด็กวัดไป คือถ้าเด็กในวัดเราเอาดีไม่ได้ ก็ไปสอนคนอื่นเขาไม่ได้หรอก จึงต้องเคี่ยวเข็ญกันหน่อย”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2016 เมื่อ 19:25
|