พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "วัดประตูด่านขอเจ้าอาวาสอีกแล้ว อาตมาหาเจ้าอาวาสให้เขาไม่ทัน มานั่งเซ็งในอารมณ์ วัดในกาญจนบุรีมีตั้ง ๖๐๐ กว่าวัดและอีก ๙๐ กว่าสำนักสงฆ์ เวลาขาดเจ้าอาวาส เขาจะไปขอที่วัดท่าขนุน..!
เจ้านายเขาสรุปว่า ถ้าได้พระจากวัดท่าขนุน เท่ากับได้เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนไปด้วย เพราะอย่างไรอาตมาก็ต้องไปช่วยอยู่ดี..!
ตอนนี้ที่พิจารณาอยู่ พระที่อายุพรรษาถึง ความรู้ถึงนั้นมีมาก แต่พระที่รู้ว่าอะไรเหมาะอะไรควรนั้นมีน้อย ไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้ารีบเร่งจะให้เขายอมรับตัวเราเองมากเท่าไร จะโดนเขาหวาดระแวงมากเท่านั้น นี่เป็นธรรมชาติของเจ้าอาวาสใหม่เลย"
ถาม : ต้องระดับไหนจึงรู้ว่าอะไรเหมาะอะไรควร ?
ตอบ : อย่างน้อย ๆ ต้องรู้กาลเทศะ ต้องรู้ว่าเวลาไหนควรจะทำอะไร ไปถึงใหม่ ๆ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป หักด้ามพร้าด้วยเข่าตามใจตัวเองไม่ได้หรอก เพราะว่าคนอื่นเขาฝังรากลึกมานานแล้ว เราต้องค่อย ๆ ขยับไปทีละน้อย จนกระทั่งมั่นใจว่าอำนาจการควบคุมอยู่ในมือแน่ ๆ แล้ว คราวนี้จะทำอะไรก็เชิญ ซึ่งบางทีอาจจะต้องใช้เวลา ๕-๑๐ ปี
ถาม : ความรู้แบบนี้จะไปหาที่ไหนคะ ?
ตอบ : ประสบการณ์ชีวิต หรือไม่ก็ดูจากคนอื่น ส่วนใหญ่แล้วหลายคนมักจะใจร้อนใจเร็ว เก่งนิติศาสตร์โดยไม่สนใจรัฐศาสตร์เลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2011 เมื่อ 14:51
|