ดูแบบคำตอบเดียว
  #321  
เก่า 29-01-2016, 14:31
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

คิลานุปัฏฐากหลวงปู่มั่นสุดหัวใจ

การป่วยครั้งนี้ของหลวงปู่มั่นเป็นจริงทุกอย่างตามที่ท่านพูด ตั้งแต่เริ่มป่วยในเดือน ๔ สุมไปเรื่อย ๆ จนถึงระยะออกพรรษา และเมื่อถึงวาระที่หลวงปู่มั่นป่วยหนักมากแล้ว องค์หลวงตากล่าวว่า ถ้าองค์ท่านไม่นอนทั้งคืน ท่านก็ไม่นอนทั้งคืนด้วยเช่นกัน และถึงแม้จะต้องได้นั่งอยู่กับที่นานมากเข้า ๆ จนเริ่มรู้สึกเจ็บเอวมาก แต่เพราะความเคารพรักหลวงปู่มั่น แม้จะเจ็บมากเพียงไร ก็ไม่ถือเป็นอารมณ์ยิ่งกว่าการคอยเฝ้าดูแลองค์หลวงปู่มั่นอย่างใจจดใจจ่อที่สุด ดังนี้

“เวลาพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นท่านป่วยหนักเข้าเท่าไร เราปฏิบัติต่อท่านเหมือนว่าเรานอนอยู่งีบเดียวเท่านั้นนะ รีบตื่นไปดูทุกอย่างก็รู้สึกว่าท่านเมตตาเรามาก ท่านจวนเข้าไปเท่าไร (หมายถึงอาพาธหนักขึ้น) เรายิ่งติดแนบตลอด หนีไปไหนไม่ได้ คอยดู คอยสังเกต คอยเตือนพระเณรให้ปฏิบัติต่อท่าน ให้เป็นความสงบร่มเย็นเฉพาะท่าน ไม่ให้มีอะไรมากระทบกระเทือน เราต้องเอาอย่างหนักทีเดียว


เมื่อองค์ท่านงีบหลับไปบ้าง ท่านก็ถือโอกาสนั้นออกไปเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ด้วยการไปเดินจงกรมในบริเวณใกล้เคียง โดยไม่ลืมที่จะให้พระที่ไว้ใจได้ คอยดูแลองค์ท่านอยู่เงียบ ๆ ตลอดเวลาแทนท่าน บอกพระองค์นั้นไว้ด้วยว่า

“หากมีอะไรให้รีบบอกทันทีและคอยสังเกตดูว่า ถ้าองค์ท่านมีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นก็ให้รีบบอกทันทีเช่นกัน”


การที่พระผู้เฝ้าไข้องค์ท่านต้องคอยบอกท่านอยู่เสมอ ๆ เพราะต่างก็สังเกตพบว่าเวลาองค์ท่านตื่นขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นมามักจะถามขึ้นว่า “ท่านมหาไปไหน ? ๆ

พระผู้เฝ้าไข้ก็จะรีบวิ่งไปบอกท่านทันทีในจุดที่นัดหมายกันไว้แล้ว ท่านเองก็รีบมาทันทีเช่นกัน ท่านเล่าถึงความหวงความห่วงใยที่มีต่อหลวงปู่มั่นโดยเฉพาะเวลาป่วยหนักว่า

“... เราเคยคิดเกี่ยวกับท่าน เวลาท่านป่วย เอาท่านมาบ้านภู่ อำเภอพรรณานิคมแล้วอยู่นั่น ตอนดึก ๆ ไม่มีใคร มีแต่เราอยู่กับท่าน พระเณรก็อยู่ข้างนอก ผู้หลับก็มี ผู้ไปพักก็มี แต่สำหรับเรานั้นอยู่ในมุ้งเป็นประจำ สมมุติว่าท่านหลับทั้งคืน เราก็ไม่นอนทั้งคืนเลย คือเราไม่ยอมให้ใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับท่าน ขนาดนั้นนะ ความหวงของเรานะ


หวงพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น หวงขนาดนั้นนะ มันหากเป็นในหัวใจนิสัยสันดานเรานี่นะ คือหวงท่าน.. ไม่อยากให้ใครไปแตะต้องท่านเลย คือกลัวเขาจะไปจับพิรุธท่าน ท่านไม่ดีอย่างนั้น จะไปตำหนิท่านอย่างนั้นอย่างนี้ คือเรามันเทิดทูนท่านสุดหัวใจแล้ว ยิ่งถ่ายหนักถ่ายเบาด้วยแล้ว เราจะไม่ยอมให้ใครเข้าไปยุ่งเลย เราจะทำหน้าที่คนเดียวหมด...

เวลาเงียบ ๆ ท่านนอนมีลักษณะเหมือนครวญคราง เสียงร้อง อี้ ๆ อี้ ๆ เราก็ฟัง

ทีนี้มันก็วิตกขึ้นมา แต่ความวิตกนี้ระวังนะ ไม่ใช่ปล่อยให้มันวิตก ให้มันคิดขึ้นมาโดยอิสระ คือมีเครื่องระงับกันอยู่นี่ คอยมีสิ่งที่คอยตบคอยตีกันอยู่นะ พอมันปรุงขึ้นมาว่า ‘ขณะที่ท่านแสดงลักษณะอย่างนี้นั้น ท่านจะเผลอบ้างหรือไม่นะ’ เท่านั้นล่ะนะ

มันเหมือนกับว่ามีอันหนึ่งมาตบตีกันเลย ถ้าอยู่ในมือก็เรียกว่าหลุดมือไปเลยนะ ตกทันทีเลย ไม่คิดต่อไปอีก แต่ก็ไม่ลืมนะความคิดที่แย็บออกมา ท่านไม่แสดงมากนะ พอนิด ๆ ๆ เท่านั้นนะ ตามธรรมดาของขันธ์มันก็แสดงเต็มตัวของมันละ ธรรมดาของคนทั่ว ๆ ไปแต่นั่นท่านพอระงับได้ ท่านก็ระงับของท่านไป..”

ดังนั้นในยามที่หลวงปู่มั่นป่วยหนักเช่นนี้ ท่านจะเป็นผู้ทำธุระต่าง ๆ เกี่ยวกับองค์ท่านด้วยตัวเองทั้งหมด เฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายหนักถ่ายเบาขององค์ท่าน เหตุผลที่เป็นเช่นนี้องค์หลวงตาเมตตาอธิบายว่า

“...เราทำต่อท่านด้วยความจงรักภักดีเทิดทูนขนาดไหน ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเลย และท่านก็ไม่เคยตำหนิอะไร เราทำกับท่านถึงจะโง่หรือฉลาด เราขอถวายทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ท่านไม่เคยตำหนิเรา จะถ่ายหนักถ่ายเบาอะไร.. เราจัดการเองหมด ไม่ให้ใครมายุ่ง กลัวใครจะไปคิดไม่ดีในเรื่องอะไร ๆ ที่เป็นอกุศลต่อท่านเพราะปุถุชนเป็นได้นี่นะ


เราถึงเป็นปุถุชนก็ตาม แต่เรามันไม่ใช่อย่างนั้น เรามอบหมดแล้วนี่มันต่างกันตรงนี้นะ สติปัญญาที่เรานำมาใช้กับท่านก็เรียกว่าเต็มกำลังของเรา...

เวลาถ่ายหนักนี่สำคัญมาก ไม่ให้ใครเห็นด้วยนะ เราทำของเราไม่ให้ใครมองเข้าไปเห็นเลยนะ เอาร่างกายเอาตัวของเราบังไว้หมดเลย ทำคนเดียวของเรา แต่ก่อนไม่มีกระดาษ ไม่มีถุงพลาสติก มีแต่กระโถนกับผ้าขี้ริ้ว ผ้าอะไร กระดาษก็มีแบบกระดาษห่อพัสดุ

เวลาท่านถ่าย เราก็เอามือรองที่ทวารท่านเลย หย่อนปั๊บใส่ปุ๊บ หย่อนปั๊บใส่ปุ๊บ เสร็จแล้วเอาผ้าคอยเช็ดตรงนั้น ให้ท่านถ่ายลงกับมือเราเลยนะ ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเลย...

เราก็เอามือเรานี่กอบโกยอุจจาระใส่กระโถน เสร็จเรียบร้อยแล้วเราถึงจะยื่นออกไป ผู้ที่คอยรับอยู่ข้างนอกเต็มอยู่แล้วนะ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามา เพราะเราไม่ให้เข้า...

เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราทำความสะอาดเอง ทำเองเสร็จแล้วเราก็รีบออกมา เพราะพระอยู่ข้างนอกเต็มหมด อยู่ในนั้นมีแต่เราคนเดียว...”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2016 เมื่อ 08:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา