พระอาจารย์กล่าวถึงไม้ผลว่า "มะมุด ผลคล้าย ๆ มะม่วงแต่ลูกกลม อาตมาลงไปปักษ์ใต้ครั้งแรกไม่รู้จักมะมุด ชาวบ้านสอยมา ๒ ลูก เขาอุตส่าห์เลือกลูกที่สุกมาให้ พอดมดูจึงรู้ว่ากลิ่นแรงมาก เอาใส่ไว้ท้ายรถ วิ่งไปไม่ถึงชั่วโมง กลิ่นตลบไปทั้งรถ ทนไม่ไหวต้องเอาออก อาหารปักษ์ใต้รู้สึกว่ากลิ่นแรงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสะตอ ลูกเนียง หรือแม้กระทั่งมะมุด
มะมุดเสียอยู่อย่างเดียวตรง "ไคล" เด็กสมัยนี้ไม่รู้จักไคลแล้ว ไคลก็คือขนที่เม็ดมะม่วง ไคลแข็งเป็นหนามเลย ถ้างับแรง ๆ แล้วจะหลุดติดมาเหมือนอย่างกับเศษไม้ติดฟันเลย ที่เขาบอกว่ามะม่วงเริ่ม "เข้าไคล" หมายถึงเริ่มแก่
ส่วนทุเรียนใต้เขานิยมกินตอนเละ ๆ เขาต้องกินลูกที่หล่นจากต้นมาเลย ถ้าไม่ถึงขนาดหล่นจากต้นมาเขายังไม่กิน เพราะฉะนั้น..ที่เราบอกว่าทุเรียนเละเป็นปลาร้า ไม่กินแล้ว ลงไปปักษ์ใต้เขาว่ากำลังพอดีเลย"
มะมุด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2012 เมื่อ 14:21
|