"ฉะนั้น...ใครบอกว่าฝึกสมาธิมากจะติดในสมาธิ คนพูดประเภทยังทำไม่ได้จริง ถ้าทำได้จริงต้องรู้ว่าสมาธิมีคุณค่าอย่างไร ขนาดพระพุทธเจ้ายังยืนยันว่าถ้าทรงฌานได้ มารจะมองไม่เห็น รัก โลภ โกรธ หลง โดนกดดับชั่วคราว กิเลสต่าง ๆ เกิดไม่ได้ชั่วคราว แล้วมารที่ไหนจะครอบงำได้ ? หลังจากนั้นก็อาศัยกำลังสมาธิมาช่วยในการพิจารณาตัดกิเลส
ถ้าหากว่าพวกเรามีคู่แข่งในการปฏิบัติลักษณะเดียวกับอาตมา จะทำอะไรได้เร็วมาก เพราะว่าไม่อย่างนั้นเราจะตามเขาไม่ทัน มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือหนีเขาได้ไหม ? ถ้าหนีเขาไม่ได้ต้องตามเขาให้ทัน พอดีอาตมาโชคดีเจอคู่แข่งลักษณะนั้นเข้า เจอหน้ากันแต่ละทีก็มาไล่อารมณ์การปฏิบัติกัน ที่หลวงพ่อฤๅษีท่านใช้คำว่า ถึงเวลาแล้วยันกัน ก็คือความรู้เท่ากัน ไม่มีใครได้มากกว่า ของอาตมาก็หมดกระเป๋าพอดี ของเขาก็หมดกระเป๋าพอดี มีคู่แข่งแล้วจะกระตือรือร้น ถ้าไม่มีก็ต้องแข่งกับตัวเอง
จริง ๆ แล้วสมาธิในการเล่นเกมส์ บางคนระดับนิโรธสมาบัติเลย เห็นเด็กฝรั่งคนหนึ่งที่เล่นเกมจนตาย เล่นต่อเนื่องกันเป็นเดือน กำลังระดับนั้นถ้าเอามาตัดกิเลสก็บรรลุไปนานแล้ว
ถึงเวลาอาตมากับเขาก็นั่งคุยนั่งไล่อารมณ์การปฏิบัติกัน พ่อเขาก็สงสัย มาจีบลูกสาวทำไมไม่เอ่ยปากขอเสียที ถึงเวลาก็หิ้วกาน้ำชา ถือถ้วยมา นั่งซดน้ำชาไป ๒ กา "คุยอะไรกันวะ ? ฟังไม่รู้เรื่อง ไปดีกว่า" ก็พ่อเขาไม่ใช่นักปฏิบัติ คิดว่าอาตมาไปจีบลูกสาวเขา
พวกเราถ้าไม่มีใครเป็นคู่แข่ง ก็ให้แข่งกับตัวเอง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2019 เมื่อ 03:03
|