ดูแบบคำตอบเดียว
  #51  
เก่า 12-07-2012, 10:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ความจริงฮินดูเขาก็เข้าใจถูก ตรงที่เทวดาหรือพรหมยังไม่หมดกิเลส แต่ฮินดูเขารู้ไม่ทั่ว ที่รู้ไม่ทั่วคือพรหมเทวดาที่เป็นพระอริยเจ้ามีเยอะมาก โดยเฉพาะในสุทธาวาสพรหมทั้ง ๕ ชั้น มีทั้งอนาคามีผลและอรหัตมรรคเยอะมากเลย บรรดาเทวดานางฟ้าต่าง ๆ ก็เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามีเยอะแยะ ที่เขารู้ไม่ทั่วอาจเป็นเพราะว่าบุคคลที่รู้เห็น ไปแค่โลกียฌาน ก็เลยเหมือนกับว่ารู้เห็นเฉพาะในส่วนที่ตนเองชำนาญ ถึงเวลามาเขียนรามายณะ รามเกียรติ์ หรือมหาภารตยุทธก็ดี จึงเอาในส่วนที่เป็นกิเลสใส่ไปเต็ม ๆ

มหาภารตยุทธมีส่วนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ ใคร ๆ ก็ว่าเป็นปรัชญาที่ลึกซึ้งนักหนา คือ ภควัทคีตา กฤษณะซึ่งปลอมเป็นคนขับรถ มาขับรถให้อรชุน อรชุนเห็นว่าจะต้องรบกับญาติพี่น้องตัวเอง เลยมืออ่อนทำไม่ลง แต่อีกฝ่ายเขาไม่สนใจ คุณทำเขาไม่ลง แต่เขาทำคุณลง กฤษณะจึงต้องเทศน์สอนอรชุนให้รู้ไว้ว่า ทุกสรรพล้วนแล้วแต่เป็นสมมติทั้งนั้น ลักษณะนี้น่ากลัวมาก น่ากลัวตรงที่ว่า เขาสอนให้ผิดศีลเลย ฆ่าเขา แต่ฆ่าด้วยการปล่อยวาง

ส่วนนี้อาตมาเจอกับตัวเองมาทีหนึ่ง กำลังใจได้ถึงขนาดบรรดาฆาตกรหรือเพชฌฆาตที่สุดโหดเลย ตอนที่อยู่วัดท่าซุง พวกหาปลามาร้องด่าท้าทายอยู่ครึ่งค่อนคืน ว่าถ้าแน่จริงให้ข้ามมา จะยิงให้กลิ้งเป็นหมาให้ดู อาตมาก็เลยข้ามไปหา พวกเขาถือปืนลูกซองขึ้นลำพร้อมยิงแล้ว อาตมายังเดินเข้าหาพวกเขาหน้าตาเฉย

กำลังใจของอาตมาตอนนั้นนิ่งมากเลย ลักษณะอย่างนั้น
ถ้าลงไม้ลงมือ อีกฝ่ายหนึ่งไม่เหลือแน่นอน ต้องบอกว่ากำลังใจมีสติสมบูรณ์พร้อมสุด ๆ พร้อมที่จะฆ่าได้โดยไม่กระพริบตา..! ปรากฏว่ารังสีอำมหิตน่าจะแรงเกินไป อีกฝ่ายหนึ่งเลยทิ้งปืนวิ่งหนี ทั้ง ๆ ที่อาตมาไปมือเปล่า

พอมานึกถึงตอนกฤษณะสอนอรชุนให้รบกับพี่น้องตัวเอง กำลังใจของเขาน่าจะอยู่ในลักษณะนี้แหละ ไม่เหลือรักชอบเกลียดชัง เหลืออยู่อย่างเดียวคือมุ่งมั่นทำให้งานตรงหน้าสำเร็จลง ต่อให้งานตรงหน้าคือการรบราฆ่าฟันทำสงคราม เข่นฆ่าแม้คนที่เป็นพี่น้องตัวเองก็ต้องทำ สยดสยองอย่างไรก็ไม่รู้ ได้แต่หวังว่าคงไม่ต้องใช้กำลังใจอย่างนั้นอีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-07-2012 เมื่อ 20:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา