พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนตอนเด็ก ๆ เวลาหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หรือหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านพุทธาภิเษกวัตถุมงคล สามารถเอาเสื่อไปนอนรอได้เลย ท่านนั่งลงไปทีหนึ่ง ๓-๔ ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ไม่กระดิกเลย
สมัยนั้นอาตมารู้จักหลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะ เพราะพระครูแสงทั้งนั้นแหละ แล้วใครจะไปคิดว่าเหรียญเจริญพรสมัยโน้นราคาไม่กี่บาท สมัยนี้ราคาเป็นแสนเป็นล้าน
สมัยแรกที่ไปหาหลวงปู่โต๊ะไม่ได้เจตนาจะไปหาท่าน ตั้งใจจะไปกินอาหารโรงทาน เพราะโรงทานเยอะมาก แล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จทุกปี พูดง่าย ๆ ว่าเป็นพระอาจารย์ในดวงใจของพระองค์ท่าน สมัยเด็ก ๆ ไม่ได้รู้จักคุณงามความดีของครูบาอาจารย์ท่านหรอก เพราะว่าบ้านยายอยู่สามแยกไฟฉายนี่เอง วัดหลวงปู่โต๊ะใกล้นิดเดียว
พอเขาบอกว่ามีงานวันเกิดหลวงปู่ก็ไป ตั้งใจจะไปกินโดยเฉพาะ แย่จริง ๆ เลยนะ แต่ก็ดีอยู่อย่างว่า ใจคิดแต่จะไปวัด ไม่รู้หรอกว่าท่านมีความดีอย่างไร คนโน้นบอกหลวงปู่เก่งอย่างโน้น คนนี้บอกหลวงปู่เก่งอย่างนี้ อาตมาก็ เออ...ท่านเก่ง แต่ตูจะไปกิน..!
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ รักตรงท่านั่งของท่าน เพราะท่านจะนั่งเหมือนหลวงปู่แหวน คือจะนั่งเอียง ๆ ข้างหนึ่ง ไม่ทราบว่าเส้นท่านเสียหรือเปล่า ? แต่หลวงปู่แหวน ทราบว่าท่านไปธุดงค์แล้วตกเขา เส้นเสีย ทำให้นั่งเอียงไปข้าง เวลาหลวงปู่ทิมท่านนั่ง บางทีก็ ๗-๘ ชั่วโมง นั่งลงไปก็เงียบหายไปเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2016 เมื่อ 16:36
|