ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 29-12-2010, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,320 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓

ขยับนั่งในท่าที่สบายของเรา ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า กำหนดความรู้สึกทั้งหมดให้ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ใช้คำภาวนาตามอัธยาศัยที่เราชอบใจ หรือจะกำหนดภาพพระไปพร้อมกันด้วยก็ได้

สำหรับวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็นวันมหามงคลสมัย ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ ๘๓ พรรษา

สำหรับการปฏิบัติในวันนี้นั้น อยากจะเน้นย้ำกับพวกเราว่า ในเรื่องของการปฏิบัติภาวนานั้น สมาธิเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ต้องพยายามปฏิบัติไป จนกว่าจะทรงฌานระดับใดระดับหนึ่งได้ ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป ไม่อย่างนั้นแล้ว เราก็ยังมีกำลังไม่พอที่จะสู้กับกิเลส แม้ปฐมฌานจะสามารถสู้กิเลสได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะนับไปแล้ว ก็ยังอ่อนแอจนเกินไป เพียงแต่ว่าหัวหาดขั้นแรก คือปฐมฌานนั้น เราจำเป็นต้องยึดได้เสียก่อน โดยการที่เรากำหนดภาวนา

ถ้าหากว่าผู้ใดกำหนดภาวนาโดยจับลม ๓ ฐานไปด้วย คือ จมูก อก ท้อง ถ้าสามารถรู้ลมได้ตลอด ๓ ฐานนี้อาตมาขอยืนยันกับทุกท่านว่านี่เป็นปฐมฌาน เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายจะสามารถทรงอาการรู้อย่างนี้ได้ยาวนานเท่าไร

ถ้าท่านสามารถทำได้จนถึงระดับปฐมฌานละเอียด ท่านจะสามารถรู้ลมหายใจเข้าออกโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับ สติก็กำหนดรู้ได้ด้วยตนเอง เราแค่เพิ่มคำภาวนาเข้าไปเท่านั้นก็พอ หรือว่าจะเพิ่มการกำหนดภาพพระขึ้นมาด้วยก็ได้

การปฏิบัติของพวกเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วขาดความอดทน ถึงเวลาทำก็ใจร้อน อยากจะได้นั่นได้นี่เร็ว ๆ การจะให้ได้เร็วนั้นมี ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือ ทำถูกวิธี ถ้าถูกวิธีก็ได้เร็ว อย่างที่สองก็คือ ต้องทุ่มเทอย่างจริงจัง ถ้าหากว่าทุ่มเทอย่างจริงจังก็จะได้เร็วเช่นกัน

แต่ถ้าหากว่าท่านใจร้อนอยากได้เร็วเฉย ๆ โดยที่ทำไม่ถูกวิธี ซ้ำยังไม่ทุ่มเทจริงจังอีก โอกาสที่จะทรงฌานทรงสมาบัติอย่างผู้อื่นเขาก็เป็นเรื่องยาก ในเมื่อท่านทั้งหลายขาดความอดทนซึ่งเป็นพื้นฐานใหญ่ของการปฏิบัติ โอกาสที่เราจะมีกำลังชนะกิเลสได้ก็ห่างไกล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2010 เมื่อ 16:06
สมาชิก 57 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา