ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-12-2017, 23:38
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,635
ได้ให้อนุโมทนา: 216,584
ได้รับอนุโมทนา 741,909 ครั้ง ใน 36,137 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default

ถาม : มีบางครั้งผมมีความรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนี้เต็มไปด้วยทุกข์ มีแต่โทษแก่ตัวเองไม่มีคุณเลย กามที่ว่าเป็นสุข ก็รู้สึกว่าสุขไม่จริง เพราะยังมีร่างกายอยู่ ทุกอย่างในโลกที่ทำแล้วรู้สึกว่าเป็นสุข สนุกสนาน รื่นเริง ก็สุขไม่จริง เพราะยังมีร่างกายอยู่ อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกร้อน หนาว เหนื่อย อึดอัด ปวดเมื่อย

พอคิดได้แบบนั้นจิตก็รู้สึกว่าเบานิดหน่อย แล้วเวลานึกไปไหนมาไหน เช่น คิดว่าตอนนี้เรากำลังนั่งกราบพระอยู่ ก็สามารถนึกได้แบบถนัด ไม่ขัดข้อง ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ความรู้สึกแบบนี้อยู่ได้ไม่นาน อารมณ์ก็กลับมาเป็นแบบเดิม คือ รู้สึกหนัก ๆ เห็นว่าความสุขในโลกก็อาจจะยังมีความสุขอยู่บ้าง อาหารอร่อยก็รู้สึกเป็นสุข พอความรู้สึกแบบนี้กลับมา ก็ปรากฏว่าเวลานึกไปกราบพระทีไรก็นึกได้ไม่สะดวกนัก ต้องใช้แรงเยอะมาก กว่าจะนึกได้

ไม่ทราบว่าอาการนี้คืออะไรครับ และทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้ความรู้สึกแบบนี้อยู่ได้ตลอดครับ ?

ตอบ : อันดับแรก สิ่งที่เรารู้สึกได้เพราะว่าเราคิดพิจารณาในหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนกระทั่งความดีส่วนหนึ่งทรงตัวอยู่ เมื่อเราไปคิดถึงภาพพระที่เป็นความดีใกล้เคียงกัน จึงสามารถที่จะกำหนดได้ง่าย หรือรู้เห็นได้ง่าย แต่พอกิเลสท้วมท้นใจเข้ามา ก็เหมือนกับคนโดนขยะท่วมทับอยู่ จะตะเกียกตะกายไปไหว้พระก็ต้องฝ่ากองขยะออกไปด้วยความยากลำบาก

ดังนั้น...ส่วนที่ว่ามานี้ สิ่งที่ควรทำมากที่สุดก็คือ พยายามรักษาการพินิจพิจารณาแบบนั้นไว้ให้บ่อย ๆ จนกระทั่งสามารถกำหนดใจถึงได้ทุกเวลา เมื่อถึงเวลาเราเห็นจริงแล้วว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นทุกข์ หมดความยึดติดในร่างกาย คราวนี้เราจะไปที่ไหนเราก็ไปได้สะดวก เพราะว่ากำลังใจไม่เกาะร่างกายแล้ว
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา