ดูแบบคำตอบเดียว
  #22  
เก่า 06-04-2011, 08:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,926 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ความจริงไม่ใช่หน้าที่ของพระ ที่จะมาตักเตือนมาสั่งสอนกัน เพราะว่าเป็นงานของโยม เป็นหน้าที่โดยเฉพาะของโยม แต่วันนี้ดูแล้วอดรนทนไม่ได้ ขืนปล่อยต่อไปคงไม่รอดแน่ แล้วจะมาหาคนที่พูดตรง ๆ บอกตรง ๆ อย่างพระก็ไม่มี เพราะถ้าบอกไปก็เถียง

เราอาจจะไม่รู้ตัวว่า ความประพฤติของเรานั้น ทำให้คนอื่นเขาเบื่อหน่ายและถึงกับปล่อยวางไปเลยก็ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่เราจะเรียนรู้ประสบการณ์จากคนอื่นก็ไม่มี ทำอย่างไรที่เราจะรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ศึกษาเรียนรู้ให้มากที่สุด และทุ่มเทกับงานให้มากที่สุด

ทุกคนลองมองย้อนไปว่า ตั้งแต่วันแรกที่เราเข้าทำงานมาจนถึงปัจจุบันนี้ สิ่งที่อาตมาพูดมามีบ้างไหม ? หรือเรารู้แต่เพียงว่า บุคคลนี้เป็นผู้บังคับบัญชา เรายอมลงให้ แต่บุคคลที่เป็นเพื่อนร่วมงาน มีโอกาสเมื่อไรเป็นงับทันที..! ถ้าอย่างนั้นเราจะอยู่กับใครได้ นอกจากคนที่ทนนิสัยเราได้เท่านั้น..!

ไม่ว่าจะเป็นบริษัทห้างร้าน ตลอดจนวัดวาอาราม ถ้ามีแต่บุคคลประเภทนี้ นอกจากจะหาความเจริญก้าวหน้าไม่ได้แล้ว ยังมีแต่จะรอวันเสื่อมสลายและพังไปในที่สุด โดยเฉพาะความสามัคคีในหมู่คณะมีน้อย กระทบกระทั่ง ขัดเหลี่ยม ปีนเกลียวกันอยู่ตลอดเวลา

เราต้องดูตัวอย่างคนญี่ปุ่น เราจะเห็นว่าเกิดสึนามิขึ้นมา บ้านแตกสาแหรกขาด แม้แต่ที่จะอยู่ที่จะกินก็ไม่มี แต่คนญี่ปุ่นมีวินัยมาก คนเอาของไปแจกก็ยังเข้าแถวเรียบร้อย ขณะเดียวกันอย่างบ้านเรา พอเอาของไปแจก ก็แย่งกันจนจะเหยียบกันตาย นี่คือลักษณะความต่างที่ได้รับการอบรมมา ที่กล่าวถึงมาตั้งแต่ต้นเป็นฉันใด ลักษณะบุคคลชาวญี่ปุ่นเวลาทำงานก็ฉันนั้น

พอชาวญี่ปุ่นเข้าทำงานที่ไหน เขาจะคิดว่างานนั้นเป็นของเขาเอง จะมีการเปลี่ยนงานน้อยมาก ส่วนใหญ่ทำไปจนเกษียณหรือตายคาบริษัทไปเลย ชาวญี่ปุ่นติดสถิติความบ้างานสูงสุด เพราะมีเฉลี่ยชั่วโมงการทำงานวันละ ๑๐ ชั่วโมง ขณะที่บ้านเรา มาหลังเวลาแต่กลับก่อนเสมอ

ทำอย่างไรที่เราจะสร้างจิตสำนึกความเป็นเจ้าของในเนื้องานนั้นขึ้นมา เพื่อที่เราจะได้ทุ่มเทจริงจัง ใช้ศักยภาพตัวเองออกมาให้สูงสุด สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่หน่วยงานให้มากที่สุด ซึ่งเท่ากับสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตัวของเราเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2011 เมื่อ 13:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา