พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนงานศพหลวงปู่มหาอำพันปี ๒๕๓๒ สมเด็จพระญาณสังวรฯ ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช ท่านก็ไปงาน คราวนี้ท่านเดินลากเท้าไปกับพื้น แล้วช่วงที่ตั้งศพเป็นชั้นสูงขึ้นมา อาตมาเห็นว่าไม่มีใครดูแลท่านเลยก็ปราดไปจับแขนท่าน “พระเดชพระคุณครับ ตรงนี้เป็นขั้นอยู่ขั้นหนึ่ง ต้องก้าวขึ้นนิดหนึ่งครับ” ท่านก็บอกว่า “ขอบใจนะ” แล้วก็จับแขนอาตมาก้าวขึ้นไป พอส่งท่านเสร็จสรรพเรียบร้อยกราบท่านแล้วก็กลับที่นั่ง
มีเสียงพระท่านถามว่า “พระรูปนั้นมาจากวัดไหน ? ไม่เห็นกลัวสมเด็จฯ ท่านเลย” อาตมาไม่เห็นท่านเป็นสมเด็จฯ แต่เห็นท่านเป็นหลวงปู่หลวงตาที่ต้องอนุเคราะห์ เพราะว่าท่านก็คือคนแก่ แต่คนอื่นเห็นท่านเป็นสมเด็จฯ ก็กลัวกันหมด ไม่กล้าทำอะไรกันเลย จนทุกวันนี้อาตมาก็ยังติดนิสัย พอถึงเวลาเห็นพระแก่ก็ต้องช่วยไว้ก่อน อานิสงส์นี้พอถึงเวลาตัวเองแก่คงจะมีคนช่วยดูแลบ้าง
บางคนเขาไม่ชอบดูแลคนแก่เพราะรำคาญ คนแก่ทำอะไรช้า เขาคงไม่ได้นึกว่าถึงเวลาตัวเองก็จะเป็นอย่างนั้น อย่างหลวงพ่อราชรัตนวิมล เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวานนี้อาตมาก็ประคองท่านไปถึงที่นั่ง ท่านอายุ ๗๙ ปีแล้ว และก็เป็นอัมพฤกษ์ซีกหนึ่ง เดินไม่ถนัด คนไปเห็นท่านช้าก็ไม่ไปยุ่งกับท่าน ส่วนอาตมากลัวว่าท่านจะล้ม ถึงเวลาก็ต้องให้ท่านเกาะแขนประคองไป"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 17:35
|