พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมานั่งรับสังฆทานมา ๒๕ ปี ประเภทลุกไปเข้าห้องน้ำกลางคันนี่แทบจะไม่เคยทำ สงสัยว่าอากาศเปลี่ยนแล้วมาลาเรียจะกำเริบ คราวนี้พอมาลาเรียลงกระเพาะก็พัง จำเป็นต้องไปห้องน้ำ ไม่อย่างนั้นแล้วท้องจะอาละวาด
ปกติถ้ามาลาเรียลงกระเพาะแล้วจะอาเจียน อาตมาเองเป็นมาลาเรียมาตั้งแต่หนุ่ม ๆ อายุเพิ่งจะ ๒๒ - ๒๓ ปี ตอนนั้นร่างกายแข็งแรงมาก กลั้นเอาไว้ไม่ให้อาเจียนได้ กลั้นไปกลั้นมา โรคหาทางออกไม่ได้เลยลงข้างล่างแทน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถ้ามาลาเรียกำเริบก็ต้องวิ่งเข้าส้วม ซึ่งก็ดีกว่าอาเจียน
ส่วนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเป็นมาลาเรียแล้วท่านไม่รู้ตัว พอ ๔ โมงเย็นก็เริ่มอาเจียนทุกวัน จนกระทั่งก่อนมรณภาพไม่นาน พระท่านเห็นว่าพ้นวาระกรรมตรงนี้แล้ว ถึงได้บอกให้ทราบว่าเป็นมาลาเรีย พอได้ยามาฉีดลงไป หายจากมาลาเรียก็เป็นโรคอื่นแทน ฉะนั้น...ยอมเป็นของเก่าต่อไปดีกว่า หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็มรณภาพไป แปลว่าตายเพราะหมดกรรม
เขาบอกว่าคนเราจะตาย
๑) หมดอาหาร ๒) หมดอายุ ๓) หมดบุญ ๔) หมดกรรม ถ้าบุญรักษา กรรมรักษา อายุยังไม่หมด อาหารยังมีอยู่ อย่างไรก็ไม่ตาย ที่อาตมาถ่ายนี่สงสัยเกิดจากฉันยาคูณธาตุเข้าไป หรือไม่ก็มาลาเรียกำเริบ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-08-2018 เมื่อ 09:50
|