เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๐
ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เราถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ส่วนที่อยากจะเตือนพวกเราในวันนี้ก็คือว่า ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามีข้อบกพร่องใหญ่ก็คือ ไม่สามารถที่จะใช้ปัญญาในการพิจารณาตัดกิเลส เพราะว่าส่วนใหญ่จะถนัดในส่วนของสมถกรรมฐาน คือภาวนาดูลมหายใจเข้าออกจนกระทั่งใจสงบ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยินดีและติดอยู่ในความสงบนั้น ไม่คิดที่จะทำอย่างอื่นต่อ
อีกส่วนหนึ่งก็ไม่รู้ว่าจะพินิจพิจารณาอย่างไร เพราะว่าเมื่อเข้าสมาธิ โดยเฉพาะถ้าเป็นอัปปนาสมาธิแล้ว จะมีความสุขเยือกเย็น ทำให้เพลิดเพลิน ไม่อยากจะคลายออกมา ในเมื่อไม่มีความคล่องตัวในการเข้าออกจากสมาธิ ทำให้ไม่สามารถที่จะใช้ความคิดพินิจพิจารณาได้ เพราะว่าสภาพจิตปักแน่นอยู่กับสมาธิเบื้องหน้า
ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราก็จะมีกำลังเพียงอย่างเดียว เปรียบเสมือนกับบุคคลจะตัดต้นไม้สักต้นหนึ่ง ถ้ามีแต่กำลัง ก็ไม่สามารถที่จะตัดต้นไม้นั้นได้ จำเป็นจะต้องมีอาวุธหรือวิปัสสนาญาณมาช่วย จึงจะสามารถขัดเกลาตัดกิเลสต่าง ๆ ลงไปได้ ในส่วนทั้งหลายเหล่านี้ พวกเราจึงต้องฝึกหัดให้เคยชิน กับการที่เมื่อเข้าสมาธิจนกำลังระดับสูงสุดที่เราทำได้แล้ว ก็ให้คลายสมาธิออกมาเพื่อพิจารณาวิปัสสนาญาณ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-09-2017 เมื่อ 19:53
|