พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงปีที่ผ่านมา ถ้ายอมให้น้ำท่วมสนามบินสุวรรณภูมิ น้ำจะอยู่ไม่นาน คราวนี้ไม่ยอมให้น้ำท่วมสนามบินสุวรรณภูมิ ไปกักเอาไว้ พอกักเอาไว้น้ำก็ทะลักมาทางตรงข้าม ก็หาทางลงยาก อย่าลืมว่าสุวรรณภูมิคือหนองงูเห่า เป็นหนองน้ำ เป็นพื้นที่รับน้ำใหญ่โตมโหฬาร ในเมื่อน้ำลงที่ต่ำไม่ได้ก็สะสมตัวมากขึ้น ๆ ล้นไปตามที่สูง คนที่ไม่เคยท่วมก็โดนท่วม ไม่ใช่ว่าไม่รู้....รู้..แต่ถือว่าเอาจุดที่สำคัญที่สุดไว้ก่อน คือรักษาสนามบินเอาไว้
ความจริงถ้าไม่กั้นเลย ใช้แบบโบราณก็ท่วมไม่กี่วันหรอก เพราะน้ำดาหน้ามาพร้อม ๆ กัน อย่างเก่งก็สักครึ่งแข้ง ท่วมโดยทั่วหน้ากันทั้งในทั้งนอก เดี๋ยวก็ลงทะเลไป แต่เราไปกักเอาไว้ พอไปกักเอาไว้ปริมาณก็สูงขึ้น ๆ จนคันกั้นน้ำเอาไม่อยู่ พังมาตูมเดียวก็เรียบร้อย นิคมอุตสาหกรรมยิ่งใหญ่แค่ไหนก็เอาไม่อยู่
เป็นการวางแผนจัดการที่ผิดพลาดแต่โทษใครไม่ได้ เพราะช่วงที่ผ่านมาแล้งจัด พอน้ำมาก็ต้องรีบเก็บ ปรากฏว่าพอเก็บน้ำได้ตามปริมาณระดับที่ตัวเองต้องการ อยู่ ๆ พายุก็พรวดพราดมา ๓ - ๔ ลูกติด ๆ กัน พอน้ำจะเกินระดับก็ต้องทำการพร่องน้ำตามหลักวิชาของเขา ก็คือระบายน้ำออก แต่พอเขื่อนใหญ่ ๆ ระบายลงมา ๓ - ๔ เขื่อนพร้อม ๆ กัน กรุงเทพฯ ก็ท่วมเรียบร้อย มาปีนี้เห็นไหม ? เขารีบเททิ้งตั้งแต่ตอนนี้เลย เพราะชักเข็ดแล้ว ถ้าตอนปลายปีแล้งขึ้นมา คราวนี้ก็น้ำตาเล็ดเลย..(หัวเราะ).."
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2012 เมื่อ 13:58
|