พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน ที่พระคุณเจ้าว่าพระพุทธองค์เสด็จดำเนินไปทางใด แผ่นดินที่ลุ่มก็ฟูขึ้น ที่ดอนก็ยุบลงเรียบราบเสมอกัน ใช่หรือไม่
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร เป็นดังที่พระองค์ตรัสนั้น
ม. แต่เหตุไฉนจึงมีเล่าไว้อีกที่ว่า พระบาทของพระพุทธเจ้าถูกสะเก็ดหินกระทบ
น. เป็นเพราะสะเก็ดหินนั้นมิได้ตกลงมาตามธรรมดาของตน หากตกลงมาด้วยความเพียรของพระเทวทัต อย่างไรก็ตาม
หินที่พระเทวทัตกลิ้งลงมาด้วยความอาฆาตมีขนาดเท่าเรือนยอด โดยหวังจะให้ทับพระพุทธเจ้า แต่แล้วกลับมีภูเขาสองลูกผุดขึ้นรับไว้
ด้วยแรงปะทะของหินกับภูเขาจึงบังเกิดสะเก็ดหินที่กระเด็นไปต้องพระบาทของพระพุทธเจ้าเข้า
ม. ก็เมื่อมีภูเขาสองลูกผุดขึ้นมารับแล้ว ทำไมยังมีสะเก็ดกระเด็นไปถูกได้เล่า
น. แม้เมื่อมีของรองรับ แต่ก็ยังรั่วได้ เหมือนเทน้ำลงฝ่ามือ น้ำย่อมรั่วไหลออกตามนิ้วมือได้ฉะนั้น
ม. เอาเถิด ข้อนี้ข้าพเจ้าเข้าใจ แต่ยังข้องใจว่า เหตุใดสะเก็ดหินจึงไม่ทำความเคารพยำเกรงพระพุทธองค์เหมือนผืนแผ่นดินที่พระคุณเจ้ากล่าวไว้เบื้องต้น
น. ขอถวายพระพร เหตุปัจจัยที่กระทำให้ไม่เกิดความเคารพยำเกรง ได้แก่
๑. อำนาจราคะ
๒. อำนาจโทสะ
๓. อำนาจโมหะ
๔. อำนาจโลภะ
๕. อำนาจพยาบาท
๖. อำนาจมานะ
๗. อำนาจอติมานะ
๘. ความไม่นิยมนับถือ
๙. ความเป็นคนเลวในสันดาน
๑๐.ความไม่มีอิสระแก่ตน
๑๑.ความตระหนี่ตน
๑๒.ความสาละวนแต่การงาน
ขอถวายพระพร สะเก็ดหินชิ้นนั้นกลิ้งลงมาด้วยอำนาจแห่งความพยาบาทของพระเทวทัต
แม้จะแตกออกเพราะกระทบกับภูเขา แต่แรงส่งนั้นยังคงมีอยู่ จึงกระเด็นไปถูกพระบาทพระพุทธเจ้าเข้า
เหมือนละอองฝุ่นอันลมหอบย่อมกระจายไปทั่วทิศฉะนั้น (ภควโตปาทปัปปฏิกปติตปัญหา)
|