พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า “อิทธิบาท ๔ ประการ(คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) ตถาคตได้เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
และด้วยอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาทนั้น ถ้าตถาคตประสงค์จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปตลอดกัปหนึ่ง หรือเกินกว่ากัปขึ้นไป ก็อาจอยู่ต่อได้สมประสงค์”
แต่ไฉนต่อมาพระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ดูก่อนอานนท์ อีกสามเดือนตถาคตจักปรินิพพาน” ความสองตอนนี้ฟังดูไม่สมกัน
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร พระพุทธพจน์ตอนหลังนั้น พระพุทธองค์ตรัสเพื่อทรงกำหนดพระชนมายุซึ่งจะสิ้นสุดลงในขอบเขตที่ทรงทราบ
ส่วนพระพุทธพจน์ตอนต้นนั้น พระองค์ตรัสเพื่อแสดงอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาท ๔ ว่าเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ
ม. หากอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาทอาจต่ออายุให้ยืนยาวได้ เหตุใดพระพุทธองค์ไม่เสด็จดำรงพระชนม์อยู่ต่อไป มาด่วนนิพพานทำไม
น. หากพระพุทธองค์ประสงค์จะดำรงพระชนม์ให้ยืดยาว ก็อาจกระทำได้ด้วยอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาท ๔
แต่พระพุทธองค์หามีประสงค์เช่นนั้นไม่ การมีชีวิตยืนยาวมิได้เป็นความปรารถนาของพระองค์ แต่ก็ไม่ถึงกับทรงรังเกียจการมีพระชมน์อยู่ต่อไป
พระหฤทัยมิได้ฝักใฝ่กับการมีพระชนม์อันยืดยาว คติธรรมดาแห่งสังขารมีอยู่อย่างไร ก็ทรงปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น (อิทธิบาทพลสนปัญหา)
ม. พระคุณเจ้าว่านี้ชอบแล้ว
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 12-06-2009 เมื่อ 16:22
|