ดูแบบคำตอบเดียว
  #71  
เก่า 12-06-2009, 15:31
ป้านุช's Avatar
ป้านุช ป้านุช is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,723 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
ป้านุช is on a distinguished road
Smile

พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า “อิทธิบาท ๔ ประการ(คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) ตถาคตได้เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
และด้วยอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาทนั้น ถ้าตถาคตประสงค์จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปตลอดกัปหนึ่ง หรือเกินกว่ากัปขึ้นไป ก็อาจอยู่ต่อได้สมประสงค์”
แต่ไฉนต่อมาพระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ดูก่อนอานนท์ อีกสามเดือนตถาคตจักปรินิพพาน” ความสองตอนนี้ฟังดูไม่สมกัน


พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร พระพุทธพจน์ตอนหลังนั้น พระพุทธองค์ตรัสเพื่อทรงกำหนดพระชนมายุซึ่งจะสิ้นสุดลงในขอบเขตที่ทรงทราบ
ส่วนพระพุทธพจน์ตอนต้นนั้น พระองค์ตรัสเพื่อแสดงอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาท ๔ ว่าเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ


ม. หากอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาทอาจต่ออายุให้ยืนยาวได้ เหตุใดพระพุทธองค์ไม่เสด็จดำรงพระชนม์อยู่ต่อไป มาด่วนนิพพานทำไม

น. หากพระพุทธองค์ประสงค์จะดำรงพระชนม์ให้ยืดยาว ก็อาจกระทำได้ด้วยอานุภาพแห่งการเจริญอิทธิบาท ๔
แต่พระพุทธองค์หามีประสงค์เช่นนั้นไม่ การมีชีวิตยืนยาวมิได้เป็นความปรารถนาของพระองค์ แต่ก็ไม่ถึงกับทรงรังเกียจการมีพระชมน์อยู่ต่อไป
พระหฤทัยมิได้ฝักใฝ่กับการมีพระชนม์อันยืดยาว คติธรรมดาแห่งสังขารมีอยู่อย่างไร ก็ทรงปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น (อิทธิบาทพลสนปัญหา)


ม. พระคุณเจ้าว่านี้ชอบแล้ว
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐
ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง
เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 12-06-2009 เมื่อ 16:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา