(หลังเสร็จกรรมฐาน)
นั่งนิ่ง ๆ ก่อน ๓ นาที เมื่อครู่มีนักเลงโตท่านมา ท่านฝากถามว่า หลายคนในที่นี้นอกจากกินข้าวเย็นแล้ว สามารถรักษาศีล ๘ ได้ แล้วทะลึ่งกินข้าวเย็นไปทำอะไร ? กลัวความดีจะมากเกินไปใช่ไหม ? หลวงเตี่ยของอาตมาเอง ท่านเจ้าคุณพระเทพประสิทธินายก หรือ หลวงปู่นาค วัดระฆังของหลาย ๆ คน พระระดับนั้นถามนี่โปรดตัดสินใจรักษาศีล ๘ ไปเถอะ อย่าเสียเวลาไปกินข้าวเย็นอยู่เลย ทุกอย่างที่ทำเป็นศีล ๘ อยู่แล้ว ยกเว้นกินข้าวเย็นเท่านั้น
ท่านถามว่าเราจะกินไปทำอะไร ? กลัวความดีจะเยอะเกินไปใช่ไหม ? ท่านแวะมาเยี่ยม เห็นพวกเราปฏิบัติธรรมกันท่านก็โมทนาด้วย หลวงเตี่ยวัดระฆังรูปนี้ อาตมาเรียกไม่เหมือนชาวบ้านเขา เรียกแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงยังอยู่ในช่วงปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอยู่ ก็เคยไปกราบขอความรู้ท่านมาหลายวาระ อาตมาไม่ทันท่านตอนมีชีวิตอยู่ แต่ทันท่านตอนตายแล้ว
อีกรูปหนึ่งก็คือหลวงลุงเสงี่ยม วัดสุทัศน์ฯ ตำแหน่งนั้นท่านจริง ๆ คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ หลวงลุงเสงี่ยมก็เป็นพระอรหันต์ระดับเดียวกันกับหลวงเตี่ยนั่นแหละ แต่พวกเราไม่จะค่อยรู้กัน หลวงลุงนี้อาตมาทัน เรียกท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านบอกว่ามากไป ท้ายสุดเห็นหลวงพ่อวัดท่าซุงเรียกท่านเป็นหลวงพี่ อาตมาก็เลยเรียกหลวงลุง เพราะฉะนั้น..ในเมื่อท่านฝากมา ก็ไปพิจารณาตัวเองว่ายังจะเกรงใจโลกด้วยการกินอยู่อีกมื้อหนึ่งไหม ? ถ้าอดได้ก็อดไปเลย เพื่อการปฏิบัติของเราจะได้ก้าวหน้ามากขึ้น เอ้า...เท่านี้แหละ พวกเราเรียกหลวงปู่ก็ได้ แต่อาตมาเรียกไม่เหมือนชาวบ้านเขาหรอก เรียกท่านว่า "หลวงเตี่ย"
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2018 เมื่อ 03:12
|