ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 04-05-2010, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,128 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ผมกล่าวอย่างนี้ได้ เพราะว่าเป็นประสบการณ์ที่ผมเคยผ่านมาก่อน ทุกครั้งพอเราตั้งหน้าตั้งตาทำจริง ๆ มันก็จะดิ้นรน มารยาไปในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เราเลิก จะบอกว่าเมื่อย ทนไม่ได้แล้ว เลิกเถอะ บอกว่าเหนื่อย บอกว่าหิว บอกว่าร้อน บอกว่าง่วง บอกว่าเพลีย บอกทุกอย่าง แล้วเราก็ไปเชื่อ คิดว่าทำต่อไม่ได้แล้ว เดี๋ยวเราจะตายซะก่อน จำไว้ว่า ไอ้ที่จะตายนะ กิเลสตาย ไม่ใช่ตัวเราตาย

ปัจจุบันนี้นักปฏิบัติที่ปฏิบัติกันไปแล้วไม่ก้าวหน้า ก็เพราะว่า ถ้าไม่ทำเกินก็ทำขาด ที่ทำเกินคือเกินพอดี ที่ทำขาดคือยังไม่ถึงดี แต่ว่าเท่าที่เจอมา ปัจจุบันนี้ที่ทำเกินนี่หาทำยาไม่ได้ ไม่มี..มีแต่ขาดทั้งนั้น

พวกเรามักทำตัวเป็นไฟไหม้ฟาง ลุกวูบเดียวแล้วก็ดับไป ถ้าไม่สามารถรักษากำลังใจในการปฏิบัติความดีให้สม่ำเสมอได้ ชาตินี้เราจะเอาดีได้ยาก ที่ผมเริ่มต้นนั้น ผมทำมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ ทุ่มเทกันอย่างเอาเป็นเอาตายเลย

ถ้าเป็นพวกคุณมาจนถึงป่านนี้ ๓๐ กว่าปียังจะมีกำลังใจทำต่อหรือ ? คืออยากให้รู้ว่า ทุกวันนี้เราตามใจกิเลสมากเกินไปแล้ว เราตามใจมันมากเท่าไร เราก็ตกเป็นทาสของมันมากเท่านั้น

มันชวนให้เราฟุ้งซ่านไป ไม่เรื่องในอดีตก็เรื่องในอนาคต อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เหมือนกัน ผมเคยเปรียบว่าถ้าเราจะขึ้นรถ เราต้องขึ้นขบวนที่อยู่ตรงหน้าเรานี่

รถที่เป็นขบวนอดีตผ่านไปแล้ว เราขึ้นไม่ได้หรอก ขบวนที่เป็นอนาคตก็ยังไม่มาเทียบท่า แล้วเราจะไปขึ้นได้อย่างไร ? เพราะฉะนั้นเราต้องขึ้นรถที่เป็นขบวนปัจจุบันคือตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เอาไว้ให้ได้

ทรงกำลังใจของเราในด้านของความดีเอาไว้ แล้วรักษาให้อยู่กับเราให้นานที่สุด ถ้าสลายตัวลงไป พังลงไป ต้องรีบประคับประคองขึ้นมาให้เร็วที่สุด แล้วรักษาต่อไป ต้องทำอย่างนี้ โอกาสที่เราจะชนะกิเลสถึงจะมี

ไม่อย่างนั้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่ฟุ้งซ่าน เท่ากับเราเอาไฟมาเผาตัวเองให้ร้อน แทนที่จะไปเผากิเลส ก็ไปช่วยกิเลสเผาตัวเอง พอร้อนขึ้นมามันก็ดิ้นรน มันอยากจะไป มันอยู่ไม่ได้ อยู่ในที่สงบก็จะตายเอา

ลองนึกดูสิว่า เราอยู่ในเพศของนักบวช แต่ว่าเราทำหน้าที่ผิด เราวางกำลังใจผิด ทำหน้าที่ผิดก็คือ หน้าที่ของเรา เราต้องเผากิเลส ไม่ใช่ช่วยกิเลสมาเผาตัวเราเอง เผากิเลสก็แค่ใช้ศีล ใช้สมาธิ ใช้ปัญญาเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2010 เมื่อ 03:00
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา