ดูแบบคำตอบเดียว
  #8  
เก่า 12-09-2009, 23:29
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,001
ได้รับอนุโมทนา 133,090 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink ประวัติและคำสอนของหลวงปู่สิม (หน้า ๘)

ในระหว่างที่ท่านจำพรรษาอยู่นี้ ท่านได้มีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษ
และเมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพาอุบัติขึ้น ท่านก็ได้ไปหาที่สงบบำเพ็ญธรรมที่ถ้ำผาผัวะ
ปรากฏว่ามีทหารญี่ปุ่นขึ้นไปฟังเทศน์หลวงปู่ที่ถ้ำ ตอนแรกเทศน์เป็นภาษาไทย
แล้วมีล่ามแปลจากไทยเป็นอังกฤษ และจากอังกฤษเป็นญี่ปุ่นอีกที ทำให้เกิดความยุ่งยาก
พอทหารญี่ปุ่นรู้ว่าท่านสามารถคุยภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องโดยตรงได้ ต่างก็พอใจยิ้มออกทีเดียว

ระหว่างที่อยู่จำพรรษาที่เชียงใหม่นี้ หลวงปู่ได้สร้างวัดสันติธรรมซึ่งอยู่ในตัวอำเภอเมือง
โดยการอุปถัมภ์ของคุณแม่นิ่มนวล สุภาวงศ์ มีเนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่
เป็นที่พักอันมั่นคง บางขณะมีพระเณรมากถึง ๓๘ รูป

หลวงปู่ปกครองพระเณรลูกวัดของท่านอย่างอบอุ่นใกล้ชิดเหมือนพ่อดูแลลูก ๆ
เวลาที่พระเณรอาพาธ หลวงปู่จะนั่งเฝ้าไข้อย่างสงบไม่ยอมห่าง จนกระทั่งผู้ป่วยอาการดีขึ้น

ครั้งหนึ่งเณรน้อยนอนซมด้วยโรคพยาธิ ตัวเหลือง ซูบซีดผอม เพราะฉันอาหารไม่ได้เลย
“แม่ไล” ได้เอายาถ่ายพยาธิมาถวาย เณรน้อยก็ฉันไม่ได้ อาเจียนออกมา
ทำให้แม่ไลโมโหมากจะบังคับให้ฉันให้ได้ แต่หลวงปู่ซึ่งนั่งเฝ้าอยู่อย่างใจเย็น
ได้ปลอบประโลมเณรน้อยของท่านว่า

วันพรุ่งนี้เถอะเน้อ ไปบิณฑบาตได้กล้วยก่อน
จะเอายาใส่ในกล้วยให้เณรน้อยฉัน
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 13-09-2009 เมื่อ 09:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 55 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา