ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 20-06-2017, 17:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,368
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๐

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา เคยใช้คำภาวนาแบบไหนมาก่อน ก็ให้ใช้แบบนั้น

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ เมื่อครู่นี้ได้กล่าวถึงเรื่องของทิพจักขุญาณ จะขออาศัยโอกาสนี้ตักเตือนญาติโยมทั้งหลายว่า เรื่องของทิพจักขุญาณนั้นเป็นเพียงของแถมในการปฏิบัติ ถ้าท่านต้องการทิพจักขุญาณ แปลว่าในอดีตต้องเคยทำมาแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องไปดิ้นรนทำในชาติปัจจุบันนี้อีก

เพียงแต่ว่าพยายามรักษากำลังใจของเราให้นิ่ง สงบ เมื่อกำลังใจนิ่ง สงบได้ระดับเมื่อไร ทิพจักขุญาณจะกลับมาใหม่เอง ไม่ต้องเสียเวลาไปเริ่มต้นฝึกฝน ไม่ต้องเสียเวลาไปหาอุปกรณ์กสิณต่าง ๆ

แต่คราวนี้ทิพจักขุญาณนั้น มักจะมีผลเสียมากกว่าผลดี อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วก็คือว่า เพราะเราเห็นเราจึงเชื่อ ขอให้ทุกท่านพิจารณาในส่วนอารมณ์ของพระโสดาบัน บุคคลที่เป็นพระโสดาบันนั้นก็คือ รักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ มีความเคารพใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่นแฟ้นจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

มีความรู้สึกตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย ถ้าตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว นี่คืออารมณ์ของการเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าระดับโสดาบัน เป็นเส้นทางที่ทุกคนควรที่จะไขว่คว้าให้ได้มาให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงว่า การเกิดมาในชาตินี้ของเราจะไม่เสียชาติเกิด ไม่เช่นนั้นถ้าเรามัวไปฝึกหัดเรื่องของฤทธิ์เรื่องของอภิญญาต่าง ๆ ถ้าเกิดว่าหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบ แต่ถ้าเป็นพระโสดาบันอย่างหยาบ เราก็เกิดแค่ ๗ ครั้งเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างกลางก็เกิด ๓ ครั้ง ถ้าเป็นอย่างละเอียดก็เกิดเพียงครั้งเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2017 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา