พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านเราถือว่าเลข ๙ เป็นเลขมงคล ความจริงทุกเลขก็เป็นมงคล ขึ้นอยู่กับความคิดหรือความเชื่อของเรา ฝรั่งกลัวเลข ๑๓ กันนักหนา แต่ไทยเรามีธุดงควัตร ๑๓ ข้อ มีเทศน์มหาชาติ ๑๓ กัณฑ์ ฯลฯ
คนจีนเขากลัวเลข ๔ เพราะเลข ๔ เวลาออกเสียงจะเหมือนคำว่าตาย แต่ไทยเรามีอริยสัจ ๔ อิทธิบาท ๔ สัมมัปปธาน ๔ สติปัฏฐาน ๔ อะไรที่มีสี่จะมั่นคงเป็นพิเศษ เช่น รถต้องมีสี่ล้อ โต๊ะต้องมีสี่ขา ฉะนั้น..เลขสี่ของคนไทยเรากลับแสดงออกถึงความมั่นคง
แต่ของพวกนี้ไม่ใช่มงคลที่แท้จริง ทั้งมนุษย์ เทวดา พรหม ถกเถียงกันอยู่เป็นร้อย ๆ ปี ว่าอะไรเป็นมงคลที่แท้จริง มงคลที่แต่ละท่านยกขึ้นมานั้นล้วนเป็นสิ่งที่คัดค้านได้ ท้ายสุดเทวดาทั้งหมดก็ตัดสินใจว่า ตอนนี้ผู้รู้คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อุบัติขึ้นแล้ว เราไปถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเถียงกัน เถียงมาเป็นร้อยปีก็ไม่จบเสียที
จึงพากันยกขบวนไปที่เชตวันมหาวิหาร ท่านบอกว่า ยังเชตวันมหาวิหารให้สว่างรุ่งเรืองไปด้วยรัศมีแห่งเทวดาและพรหมทั้งหลาย พหูเทวะมนุสสา จะ มังคะลานิ อะจินตะยุง เทวดาและมนุษย์เป็นจำนวนมาก ต่างก็พาคิดถึงเรื่องที่เป็นมงคล
ทูลถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงตรัสมาดังนี้ว่า อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญ จะ เสวะนา การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑ จัดเป็นอุดมมงคล"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2019 เมื่อ 04:30
|