ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 23-02-2016, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,762 ครั้ง ใน 34,036 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยก่อนที่ปฏิบัติธรรมอยู่ ฟังคำครูบาอาจารย์แล้วรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ ก็เลยอยู่ในลักษณะว่า พอฟังสิ่งที่ท่านสอนก็ถือว่าท่านสั่งให้ทำ ฟังดูแปลก ๆ ไหม ? คือท่านสอนอะไรมาก็ถือว่าท่านให้ทำอย่างนั้น คำสอนหมวดแรกที่จับมาแล้วตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติอย่างจริงจังก็คือกสิณ ๑๐ แล้วก็ตามด้วยอนุสติ ๑๐ อสุภกรรมฐานรั้งเอาไว้ก่อน เพราะว่าหาวัสดุยาก ยังโชคดีว่าสมัยนั้นยังมีเผากลางแจ้งกันมาก วัดท่าซุงก็ยังมีเมรุเผากลางแจ้งอยู่ สมัยนี้ส่วนใหญ่เป็นเมรุปลอดมลพิษหมดแล้ว

คราวนี้ในส่วนของการปฏิบัติ ถ้าเราทุ่มเทก็จะเกิดผล เพียงแต่ว่าเกิดผลมากน้อยเท่าไร อาตมาเองปฏิบัติในอนุสติ ๑๐ ตั้งแต่พุทธานุสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ธัมมานุสติ ระลึกถึงคุณพระธรรม สังฆานุสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์ สีลานุสติ ระลึกถึงคุณของศีล จาคานุสติ ระลึกถึงคุณการบริจาคให้ทาน มรณานุสติ นึกถึงความตาย เทวตานุสติ ระลึกถึงความดีของเทวดาว่ามีอะไรบ้าง เทวดานี่หมายถึงพรหมและพระวิสุทธิเทพบนพระนิพพานด้วย

กายคตานุสติ ตามดูว่าร่างกายของเรานี้มีสภาพไม่ใช่แท่งทึบ เต็มไปด้วยเครื่องจักรกลต่าง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่น่ารักใคร่ยินดี อุปสมานุสติ ระลึกถึงอารมณ์สงบระงับจากกิเลส ก็คืออารมณ์พระนิพพาน และท้ายสุดคืออานาปานุสติ การตามดูลมหายใจเข้าออก ซึ่งเป็นกำลังใหญ่ในการสนับสนุนกองกรรมฐานอื่น ๆ
ให้ตั้งมั่นทรงตัวได้ผล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2016 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา