ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 17-05-2015, 14:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,903 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของสมาธินั้น อย่างน้อย ๆ พวกเราต้องทรงฌานได้ในระดับปฐมฌานละเอียด เพื่อที่จะมีกำลังเพียงพอที่จะตัดกิเลสในระดับหนึ่ง ก็คือในระดับของพระโสดาบัน ซึ่งจะจำกัดการเกิดของเราว่าเต็มที่ก็ไม่เกิน ๗ ชาติ แปลว่าลงมาทุกข์อีกไม่เกิน ๗ ครั้ง แต่ถ้าท่านทั้งหลายสามารถทรงฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ได้ กำลังสมาธิสามารถตัดกิเลสในระดับพระอนาคามีหรือพระอรหันต์ได้ ถ้าตัดกิเลสในระดับพระอนาคามี ท่านขึ้นไปปฏิบัติต่อ รอเข้าสู่พระนิพพานที่สุทธาวาสพรหม ๕ ชั้น ชั้นใดชั้นหนึ่ง แต่ว่าก็ยังต้องมีความทุกข์ ก็คือต้องขวนขวายที่จะทำตนให้บริสุทธิ์ พ้นจากกองทุกข์โดยสิ้นเชิง

แต่ถ้าหากว่าท่านสามารถตัดกิเลสในระดับพระอรหันต์ได้ ก็แปลว่า เรามีความทุกข์แค่ชาตินี้ชาติเดียว ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์ก็จะไม่มีอีก การที่เราจะตัดกิเลสได้ ก็ต้องมีปัญญาเห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิด ว่าการเกิดมาของเราแต่ละชาติ ล้วนแล้วแต่ต้องเจอกับโทษกับภัยที่มีแต่ความน่ากลัวเช่นนี้ ถ้าตัวเราอยู่ที่เนปาล ก็ต้องอกสั่นขวัญหายกับแผ่นดินไหว ต้องทุกข์ยากเศร้าโศกกับการสูญเสียคนที่รัก หรือว่าต้องเจ็บป่วยกับอาการบาดเจ็บ เมื่อแผ่นดินไหวโดนข้าวของตกใส่

ในเมื่อสูญเสียบ้านเรือนก็ต้องเสียใจมากเป็นธรรมดา ทรัพย์สินต่าง ๆ สูญสิ้นไป ในขณะเดียวกันการจะกินการจะอยู่ ต้องลำบากเดือดร้อน เพราะว่าสิ่งต่าง ๆ สูญหายไปกับแผ่นดินไหวเสียแล้ว ต้องทนอดอยากหิวโหยกระหาย จนกว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น ถ้าเราไม่ต้องมาเกิดอีก สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราก็ไม่ต้องพบ ไม่ต้องเจอ ไม่ต้องมาทนหนาวทนร้อน ไม่ต้องมาสูญเสียทรัพย์สิน ไม่ต้องมาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ต้องมาหิวโหยกระหายรอการช่วยเหลือ

เมื่อเราเห็นว่าการเกิดมามีทุกข์เช่นนี้ ก็ตัดใจเสียว่า ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีก การดำรงชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนเช่นนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก ตายเมื่อไรเราขอไปที่เดียวคือพระนิพพาน เอาจิตของเราจดจ่ออยู่ที่ภาพองค์สมเด็จสัมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบ ว่านั่นคือพระพุทธนิมิตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บนพระนิพพาน ตายเมื่อไรเราขอไปอยู่กับพระองค์ท่านที่เดียว

ถ้าท่านทั้งหลายเห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิด เห็นทุกข์เห็นโทษของการมีร่างกายเช่นนี้ ไม่มีความปรารถนาในการเกิด ไม่มีความปรารถนาในร่างกายของตนและผู้อื่น เราก็สามารถชำระจิตของตนให้ผ่องใส หลุดพ้นจากห่วงร้อยรัดทั้งปวง เข้าสู่พระนิพพาน พ้นจากความทุกข์ได้อย่างที่ต้องการ

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2015 เมื่อ 16:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา