ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 26-10-2016, 16:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,003 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเราพินิจพิจารณาจนเห็นจริงดังนี้ ก็จะเห็นความไร้สาระ ความไม่มีแก่นสารในสภาพของการเกิดมามีร่างกายนี้ เห็นความเป็นทุกข์ ความไม่มีแก่นสารของการเกิดมาในโลกนี้ ก็ให้เอาจิตสุดท้ายของเราเกาะอยู่ในอุปสมานุสติหรือว่าพุทธานุสติ คือเกาะพระนิพพานหรือว่าเกาะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ โดยที่ทำความรู้สึกว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหนนอกจากที่พระนิพพาน เราเห็นท่านคือเราอยู่กับท่าน เราอยู่กับท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน

ทุกวันให้เราทบทวนอารมณ์ใจของเราใน ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างนี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำแล้วย้ำเล่า อย่าเบื่ออย่าหน่ายเป็นอันขาด ถ้าหากว่ากำลังของเราสะสมเพียงพอ สภาพจิตก็จะเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ล่วงพ้นจากความอยากได้ใคร่ดีในร่างกายตนเองและผู้อื่น ปลดออกจากความอยากที่จะบังเกิดในโลกนี้ เราก็สามารถที่จะหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานได้

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2016 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา