ดูแบบคำตอบเดียว
  #55  
เก่า 09-09-2015, 16:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,732 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนเวลาหลวงปู่มหาอำพันมีอะไรก็มักจะถามอาตมา ท่านจะถามหลวงพ่อก็เกรงใจ เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ค่อยมีเวลา ถึงเวลาท่านรู้อะไรท่านก็จะใช้วิธีขอคำยืนยันกับอาตมา เป็นคนแก่ที่น่ารักมาก บางทีก็เขียนจดหมายถาม ถ้าเจอตัวก็ถามตรง ๆ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านให้ช่วยเขียนวิธีการฝึกและใช้มโนมยิทธิถวายท่าน อาตมาก็เขียนตำราถวายท่านไป ต้องบอกว่าเป็นตำราเล่มแรกของพระอาจารย์เล็ก เขียนใส่สมุดธรรมดา ๆ นี่แหละ แล้วท่านก็มาเน้นข้อความ คือท่านจะดูว่าตรงกับที่ท่านรู้มาหรือไม่ เพราะว่าจริง ๆ แล้วหลวงปู่ท่านทำได้ แต่ท่านไปติดตรงที่ว่าทิพจักขุญาณต้องเหมือนกับตาเห็น ท่านจะเอาแบบทิพยเนตร ไม่ใช่ทิพจักขุญาณ พอท่านเข้าใจว่าทิพจักขุญาณเป็นความรู้สึกแรก ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ไปลื่นเลย ถือเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ในโลก คือได้ถวายความรู้แก่ครูบาอาจารย์ระดับนั้น

แล้วท่านก็ซื้อปากกาหมึกซึมพร้อมกับหมึกดำให้ขวดหนึ่ง บอกว่าต่อไปคุณใช้หมึกนี้นะ เพราะว่าปากกาของคุณสีจางมาก คนแก่มองไม่ค่อยเห็น ก็คือด้วยความที่จะเขียนถวายหลวงปู่ สมุดก็เอาเล่มใหม่ ปากกาก็เอาของใหม่ คราวนี้ปากกาหมึกซึมถ้าใช้ใหม่ ๆ แล้วสีจะจาง ต้องใช้ไปสักครึ่งหนึ่งแล้วสีจะค่อย ๆ เข้มขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าต้นฉบับนั้นพี่มุกดาจะเก็บเอาไว้

ต้องบอกว่ามีโอกาสทำงานที่ไม่น่าจะได้ทำ เพราะว่าหลวงปู่ท่านมีหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่ธรรมชัย หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์เป็นสหธรรมิก กลับต้องมาคอยถามอาตมาอยู่ว่าเรื่องพวกนี้เป็นอย่างไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2015 เมื่อ 17:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา