ดูแบบคำตอบเดียว
  #49  
เก่า 07-06-2012, 09:37
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,547 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๓. บวชเรียนค้นคว้าพระไตรปิฎก

องค์หลวงตาบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดโยธานิมิตร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่ออายุ ๒๐ ปี ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๗ ปีจอ เวลา ๑๔ นาฬิกา ๔๕ นาที ตรงกับวันอังคารที่ ๑๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ โดยมีพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูปลัดอ่อนตา เขมงฺกโร วัดโยธานิมิตร อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นพระกรรมวาจาจารย์

---------------------------------------------------------

* พรรษาที่ ๑-๒ (พ.ศ. ๒๔๗๗ – ๒๔๗๘) จำพรรษาที่วัดโยธานิมิตร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี



ท่านพระครูชมเชย
คนนี้ละ..จะทรงพระศาสนา
-----------------------------------

นิสัยที่เป็นคนทำอะไรทำจริง ท่านจึงระลึกเตือนตนเองว่า “พ่อแม่ไม่ได้ติดตามมาแนะนำ มาคอยตักเตือนเราอีกแล้ว เราต้องเป็นเราเต็มตัว” ด้วยเหตุนี้เอง นับตั้งแต่วันเข้านาคเป็นต้นมา ท่านจึงฝึกฝนเรื่องการตื่นนอนใหม่ ให้สะดุ้งตื่นทันทีที่รู้สึกตัวขึ้นมา

ช่วงเป็นนาคอยู่นั้น ท่านนอนอยู่หน้าโบสถ์กับเพื่อนนาคด้วยกัน ๓ คน ส่วนท่านพระครูวัดโยธานิมิตร ท่านจำวัดอยู่หลังพระประธาน ทุกเช้าตอนตีสี่จะเห็นท่านพระครูลงมาเดินจงกรมเป็นประจำ ดูท่านจริงจังมาก พอสว่างก็กลับเข้ามาทำวัตร ทำวัตรเสร็จแล้วก็ไปบิณฑบาต

จนกระทั่งเมื่อถึงวันบวช พวกนาคทั้งหลายเขานุ่งแต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อย นาคบัวเองก็เตรียมพร้อมแล้วที่จะบวชในวันนั้นเช่นกัน ท่านพระครูฯ ท่านเดินเข้ามาหา มองเห็นนาคบัวแต่งชุดนาคซอมซ่อจึงดุเอาทั้งพ่อทั้งแม่ ท่านว่าเอาแบบเจ็บ ๆ แสบ ๆ ท่านตวาดเอาว่า

“อีแพง! บักทองดี! สูไม่มีหรือ ? อะไร ๆ สูก็ไม่มีหรือ ? ดูซิ! นาคบัวเดินอยู่ในวงของนาคทั้งหลาย ซอมซ่ออยู่นั่น สูเห็นไหม..? ไม่มีสง่าราศรีอะไรเลย นาคทั้งหลายเขาแต่งตัวเต็มยศ ทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อย สวยงามน่าดูทุกอย่าง แต่ดูนาคบัวสิ..! แต่งตัวซอมซ่อ ถ้าสูไม่มี กูจะหามาให้

พอท่านพระครูว่าอย่างนั้น ทั้งพ่อทั้งแม่จึงรีบไปยกตะกร้าใหญ่ ๆ ใส่เครื่องแต่งตัวทุกอย่างของนาคบัวที่เตรียมมาให้ลูกแต่ง แต่ปรากฏว่าลูกไม่ยอมแต่ง... ซึ่งตามนิสัยของลูกคนนี้เป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อ แม้แต่เป็นหนุ่มก็ไม่ฟุ้งเฟ้อ ผ้าอะไร ๆ ถ้าแม่ทอให้แล้ว ลูกคนนี้จะนุ่งหมด ซื้อที่อื่นไม่ซื้อ พวกเครื่องนุ่งห่มนี้.. อะไรที่แม่ทอให้แล้วใช้หมด ถ้าเป็นของแม่แล้วใช้หมดเลย ... พ่อแม่จึงได้แต่เอาตะกร้าใหญ่ออกมาให้ท่านพระครูฯ ดู พร้อมกับกราบเรียนท่านว่า

“นี่! เครื่องแต่งตัวนาคบัว เตรียมมาให้ลูกบวช มีทุกอย่างจัดมาให้พร้อมบริบูรณ์ แต่มันไม่สนใจ”

ท่านพระครูสั่งว่า “บอกให้มันมาเอาไปนุ่งเดี๋ยวนี้”

พ่อแม่นาคบัวตอบท่านว่า “ได้บอกแล้ว มันกลับพูดว่า ‘นุ่งอย่างนี้ ถืออย่างนี้แล้วจะเป็นอะไรไป ใครจะมาจับ ?’ พอมันว่าอย่างนั้น แล้วมันก็เดินหนี มันไม่สนใจเลย มันจึงเป็นอย่างนั้น แต่งตัวซอมซ่อกว่าใคร ๆ”

ท่านพระครูฯ พอฟังทราบเหตุผลแล้ว ก็กล่าวว่า “เออ ๆ ! ไอ้นี่ ! คนอย่างนี้แหละ มันจะทรงพระศาสนา เอาละเข้าใจ กูเห็นด้วย เป็นอัธยาศัยของตัวเอง ไม่ฟุ้งเฟ้อ”

ท่านพระครูว่าอย่างนั้น แล้วก็หันหลังเดินกลับ แสดงความดีใจยิ้มแย้มแจ่มใส กิริยาท่านพระครูในคราวนั้น ทำให้ท่านไม่เคยลืมเลือน แม้จะผ่านเหตุการณ์นั้นมานานมากแล้วก็ตามดังนี้

กิริยาท่าน เราก็ไม่เคยลืม แทนที่จะดุก็ไม่ดุ กลับชมเชย เรารักสงวนเนื้อหนังของตัวเองมาตั้งแต่เป็นฆราวาส ถ้าเป็นเสื้อเป็นผ้าหรือเป็นอะไร ๆ ที่แม่ทอออกมานี้นุ่งหมดเลย ไม่ไปซื้อให้เสียเงินเสียทอง นี่..เราพูดเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัว เรื่องรักสงวนเนื้อหนังของตัวเอง ของคนอื่น ไม่เอามาใช้ ไม่จำเป็นนะ เราผลิตขึ้นได้.. เราใช้ของเราเอง ดีไม่ดี..ดีกว่าที่ซื้อเขา ของที่ไปซื้อไปหามานี้ไม่ค่อยสนใจ พวกเพื่อนฝูงเขาซื้อชุดโก้เก๋ละ เราไม่โก้ .. เฉย ๆ เป็นอย่างนั้นละ”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2012 เมื่อ 13:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา