ดูแบบคำตอบเดียว
  #53  
เก่า 08-08-2010, 23:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,645 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวต่อในเรื่องทิฏฐิให้ฟังว่า "ในเรื่องทิฏฐินั้นก็แบบเดียวกับที่พระเจ้าปายาสิถามพระกุมารกัสสปะ แล้วพระกุมารกัสสปะท่านเปรียบเทียบให้ฟัง แต่พระเจ้าปายาสิก็ไม่ยอมละทิฏฐิ ท้ายที่สุดท่านก็เถียงข้าง ๆ คู ๆ ว่า ที่ไม่ยอมละทิฏฐิเพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าท่านมีทิฏฐิอย่างนี้ ถ้าไปละคนอื่นเขาก็ว่าเอาสิ..!

พระกุมารกัสสปะจึงบอกว่า "ดูก่อน..มหาบพิตร ชายสองคนไปเจออุจจาระแห้ง คิดว่าเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ก็เลยห่ออุจจาระแห้งกับผ้า แล้วทูนหัวไป พอเดินไปเจอกองปอมัดอยู่ ชายคนหนึ่งทิ้งอุจจาระแห้งแล้วแบกกองปอไป ส่วนชายอีกคนกลับไม่ยอมทิ้งอุจจาระแห้งนั้น

เดินไปอีกเจอกองป่าน ชายคนนั้นก็ทิ้งปอแล้วเอากองป่านไป ส่วนชายอีกคนก็ยังแบกห่ออุจจาระไว้ พอเดินไปอีกก็เจอป่านที่ทอเป็นผ้าแล้ว ชายอีกคนก็ทิ้งป่านแล้วแบกเอาผ้าไป ส่วนชายอีกคนก็ยังแบกกองอุจจาระไปตลอดทาง จนกระทั่งท้ายสุด เจอเงิน เจอทอง ชายอีกคนก็เอาเงินเอาทองไป

ส่วนชายที่แบกอุจจาระ พอเดินไปแล้วฝนตก อุจจาระก็ละลาย ทำให้ชายคนนั้นเหม็นไปทั้งตัว แต่ก็ยังไม่ยอมทิ้งอีก"

พระกุมารกัสสปะเปรียบเทียบว่า เหมือนกับพระเจ้าปายาสิ ที่ไม่ยอมละทิฏฐิ พระเจ้าปายาสิทรงพระสรวล ตรัสว่า "โยมเชื่อแต่แรกแล้ว แต่ที่ว่าดังนั้นเพราะอยากฟังท่านสมมติไปเรื่อย ๆ.." เพราะว่าพระกุมารกัสสปะสามารถที่จะสมมติได้วิจิตรชัดเจนมาก ฟังแล้วเห็นภาพพจน์ เข้าใจได้ทันทีเลย.."
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2019 เมื่อ 20:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา