ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 24-06-2011, 11:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,927 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่เราจะระงับโทสะนั้น ต้องใช้ทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ในเรื่องของศีล ถ้าเรามีเมตตาพรหมวิหารเป็นปกติ รักเขาเสมอตัวเรา ก็จะไม่ล่วงละเมิดศีล คือไม่คิดฆ่า ไม่คิดด่า ไม่คิดทำร้ายใคร ในเรื่องของสมาธินั้น จิตใจก็ต้องทรงตัว ไม่ว่าจะโดยการแผ่เมตตาจนทรงตัว หรือว่าการปฏิบัติในวรรณกสิณจนทรงตัว

ส่วนในเรื่องของปัญญานั้นต้องพิจารณาให้เห็นว่า ไม่ว่าเขาหรือเราก็ประกอบไปด้วยความทุกข์อยู่แล้ว เราจะโกรธจะเกลียดเขาหรือไม่ก็ตาม เขาก็ทุกข์อยู่อย่างนั้น และตัวเราเองก็ทุกข์ด้วย เรามีความทุกข์เช่นเดียวกับเขา ถ้าเราปล่อยให้ใจของเรามีความโกรธความเกลียดอีก เท่ากับว่าเราไปแบกความทุกข์มาเพิ่มเติมไว้ โดยที่ผู้อื่นอาจจะไม่รับรู้เลย แต่เราเองรับทุกข์ไว้เต็ม ๆ แล้ว

ถ้าปัญญาเราสามารถเห็นจริงในตรงจุดนี้ จิตใจก็จะเริ่มปล่อยวาง คลายความโกรธลงได้ ถ้ากำลังใจทรงตัวในระดับฌาน ๔ คล่องตัว แล้วมีปัญญารู้เห็น จิตใจก็จะตัดละวางความโกรธลงไปได้

ส่วนในเรื่องของโมหะความหลงนั้น ถ้าเราก้าวเข้ามาเป็นนักปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญาเช่นนี้ ความหลงของเราก็มีน้อยมากแล้ว เหลืออยู่อย่างเดียวคือความหลงยึดว่าร่างกายนี้เป็นเรา เป็นของเรา

ต้องพยายามแยกแยะให้เห็นชัดว่า ร่างกายนี้เป็นเพียงส่วนประกอบขึ้นมาจากธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ให้เราอาศัยอยู่ชั่วคราวเพื่อปฏิบัติความดีเท่านั้น ถ้าหากว่าเราไม่ใช้ร่างกายนี้ในการปฏิบัติความดี นอกจากไม่สามารถที่จะนำตนให้หลุดพ้นแล้ว เรายังอาจอาศัยร่างกายนี้ไปปฏิบัติความชั่ว สร้างเวรสร้างกรรมจนกระทั่งเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบก็ได้

ดังนั้น..ร่างกายซึ่งเราอาศัยอยู่ชั่วคราว มีสภาพเหมือนเสื้อผ้าที่เราใช้อยู่ทุกวัน หรือเหมือนกับรถยนต์ที่เราอาศัยขับ นำพาเราไปสู่เป้าหมาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2011 เมื่อ 12:38
สมาชิก 57 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา