ในส่วนงานกฐินที่วัดท่าซุงนั้น ช่วงก่อนงานกฐิน ทางเจ้าหน้าที่ของวัดที่รับผิดชอบเกี่ยวกับไทยธรรมของกฐิน ก็จะขนบรรดาเครื่องสังฆทานและผ้าไตรมา เพื่อเตรียมเอาไว้ให้ญาติโยมทั้งหลายได้ผาติกรรมแล้วนำไปถวายเป็นองค์กฐิน
พวกเราก็คำนวณกันว่า ในแต่ละงานนั้นถ้าหากมีสังฆทานพร้อมผ้าไตรสามร้อยชุด จะเพียงพอในการเวียน แล้วมีกฐินอยู่ปีหนึ่ง ก่อนอาตมาออกจากวัดไม่นานหรอก ปรากฏว่าอยู่ ๆ มันขาด ไม่พอหมุนเวียน ทั้ง ๆ ที่คนก็ไม่ได้มากกว่าปีอื่น ๆ ในที่สุดก็ได้ความว่ามีญาติโยมคณะหนึ่งมาจากไหนไม่ทราบ มากันสามคันรถบัส เห็นว่าผ้าไตรและเครื่องสังฆทานราคาถูกดี และให้บูชาได้ ก็จัดแจงผาติกรรมและขนขึ้นรถกลับบ้านไปเลย อันนั้นตามไปทวงคืนก็ไม่ได้ และเขาก็ไม่เป็นหนี้สงฆ์ด้วยเพราะเขาชำระแล้ว เป็นงานแรกที่อาตมารู้สึกหน้าแตกยับเยินเลย
ตอนนั้นหลวงพี่วิรัช (พระปลัดวิรัช โอภาโส) ท่านดูแลในเรื่องของวัตถุมงคล เราก็วิ่งมาบอกกล่าวเรื่องนี้กับท่าน ด้วยความที่พี่วิรัชเขาเป็นคนซื่อ อุตส่าห์วิ่งลงไปจนถึงที่จอดรถ ปรากฏว่าไม่ทัน เขาไปเสียแล้ว
นั่นโยมเขาเข้าใจผิดจริง ๆ คิดว่าให้บูชาแล้วยกกลับบ้านได้ เพราะฉะนั้นบางทีเรื่องของพระมีอะไรที่ขำ ๆ จนหัวเราะไม่ออกเหมือนกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-11-2009 เมื่อ 13:12
|