"เขาก็มีพวกต้นไม้ใบหญ้า พืชพันธุ์ต่าง ๆ ให้ศึกษา แล้วก็มีสระน้ำ เราก็จะเห็นคนจีนเขาไปโพสต์ท่า เซลฟี่เองบ้าง ให้คนอื่นถ่ายรูปให้บ้าง อาตมาเดินตามเขาได้หน่อยหนึ่งได้ยินเสียง Eric ตะโกน บอกว่าให้มาทางด้านนี้ ด้านโน้นเดินไกล ถามว่าหมายความว่าอย่างไร เขาบอกว่าเดี๋ยวทางก็วกไปที่เดียวกัน ทางโน้นเดินอ้อมทุ่งหญ้าไปแล้วค่อยวกกลับมา ส่วนด้านนี้เดินมาหน่อยแล้วเดินไปตรง ๆ เลย ใกล้กว่าเยอะ ก็ต้องเชื่อมัคคุเทศก์ เพราะว่าเขาเคยไปมาหลายครั้งแล้ว
ปรากฏว่าพอเดินจนถึงที่จุดนัดพบ มีม้าให้เช่าราคา ๓๐๐ หยวน ก็ประมาณ ๑,๕๐๐ บาท มีคนช่วยกันเกลี้ยกล่อม “หลวงพ่อ...นั่งม้าเถอะ” เขาเดินไม่ไหว ไม่ใช่หลวงพ่อเดินไม่ไหวนะ เขาเองเดินไม่ไหว เดี๋ยวเขาจ่ายค่าม้าให้ รีบควักกัน คนแรกก็ควัก ๓๐๐ คนที่สองก็ ๓๐๐ คนที่สามก็ ๓๐๐ เลยชักจะเป็นพันขึ้นมา มัคคุเทศก์ก็ไปเจรจาขอเช่าม้า เจ้าหน้าที่เขาบอกว่า “Wait for horse feeding two hours” ต้องรอม้ากินอาหาร ๒ ชั่วโมง กูเดินเองดีกว่า...! ท้ายสุดก็ต้องเดินกันเอง
ปรากฏว่าทางเดินเขาทำได้อุบาทว์มาก คำว่าอุบาทว์ ของอาตมาก็คือเป็นทางตรง ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็เป็นบันได ๒-๓ ขั้น ตรง ๆ แล้วก็เป็นบันได ๒-๓ ขั้น ถ้าเราเผลอมีร่วงแน่นอน เพราะจะไปคิดว่าเป็นทางราบ ๆ แล้วยังไม่ทันจะขาดคำ คนในคณะของเราก็ล้มจุ้มปุ๊กลงไปเสียแล้ว เพราะว่าขั้นบันไดเขาทำเป็นสีเดียวกับพื้น เขาน่าจะมีสลับสีให้เห็นสักหน่อย อย่างเช่นว่ามีขอบดำ ๆ ก็ได้ นี่เป็นไม้สนเหมือนกันหมด อาตมาเองก็คนแก่ หลายคนเดินแซงไปก็ค่อย ๆ เดินตาม ยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ อาศัยการเดินลักษณะเดินจงกรม หายใจยาว ๆ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2019 เมื่อ 20:19
|