"อาตมาเองก็เหมือนกัน ตอนตกระกำลำบากไม่ค่อยมีใครมาช่วย ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ทำวัดอยู่ ๒ ปี คือ ปี ๒๕๓๖ - ๒๕๓๗ พอวัดเริ่มเสร็จ เข้าพรรษาปี ๒๕๓๗ มีพระมาอยู่ด้วย ๕ - ๖ รูป มาตอนนี้ทำไม ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนนั้นอาตมาทำงานตัวดำปี๋อยู่คนเดียว ต้องบอกว่าบุญเขาดี พวกเขามาตอนงานหมดแล้ว
ปีที่ทิดรัตน์บวชที่วัดท่าขนุน งานท่วมวัดเลยปีนั้น เพราะทำลานธรรม ต้องถมดิน ปูทราย ปรับระดับ แล้วค่อยลงแผ่นอิฐ พระรุ่นนั้นทำงานกันหัวทิ่มหัวตำเช้ายันค่ำทุกวัน หลังจากนั้นที่วัดก็ว่างมา เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานช่าง พรรษาปี ๒๕๕๕ นี่แหละ ที่สร้างสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก พระต้องขัดแต่งกันเอง ไม่ต้องจ้างช่าง เพราะพระรับอาสาทำกันเอง วัน ๆ ปีนไปขัดพระกันเต็มไปหมด
ถ้าดูจากข้างล่างแล้วจะเห็นว่าองค์พระไม่ใหญ่เท่าไร แต่พอพระปีนขึ้นไปขัดกันแล้วเห็นตัวนิดหนึ่ง อย่างกับตัวไรไต่ภูเขา ทำให้นึกถึงพระพาหา (ต้นแขน) เขาใส่ถัง ๒๐๐ ลิตรไว้ ๕ ใบอยู่ข้างในแขน เพื่อลดน้ำหนักตอนเทคอนกรีต แล้วองค์พระจะใหญ่แค่ไหน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2012 เมื่อ 11:25
|