พระอาจารย์ได้กล่าวกับพระว่า "จริง ๆ ทุกท่านได้เปรียบคนอื่น เราเรียนบาลี โอกาสที่จะเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ตรงกว่าคนอื่นมันมี เพราะสามารถแปลได้เอง
แต่ว่าการแปลเป็นในส่วนที่เป็นภาษาหนังสือ การปฏิบัติมีส่วนที่เป็นภาษาใจ ส่วนของภาษาใจนี่แหละ ที่เราไม่สามารถจะพูดออกมาได้ เพราะว่าภาษาเขียน ภาษาหนังสือมันหยาบเกินที่จะอธิบายได้ เขาถึงได้ใช้คำว่า ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน
อย่างเช่นไฟมันร้อน เราก็เขียนคำว่าร้อน ทุกคนก็รู้หมดว่าไฟมันร้อน แต่มันรู้ตามหนังสือ จะรู้จริง ๆ ก็ตอนไหม้แล้วร้องโอ๊ย อ๋อ..ที่เขาบอกว่าร้อนอาการมันเป็นอย่างนี้ แต่ก่อนหน้านี้เราพูดว่ารู้ตามหนังสือยังไม่ใช่รู้จริง ๆ
เพราะฉะนั้น..สิ่งที่เราศึกษามันเป็นพื้นฐาน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง แปลได้ไม่ผิดพลาด แต่หลังจากนั้นแล้วต้องทำให้เกิด โดยเฉพาะเรียนบาลีอย่าท้อ ถ้าหากว่าทำสมาธิได้ควรจะทำ ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว เรียนไปแล้วยาก เราจะท้อหมดกำลังใจ
ถ้าสมาธิทรงตัว จิตที่กระเพื่อมตลอดเวลามันจะนิ่ง เหมือนกับน้ำนิ่ง ตอนน้ำกระเพื่อมมันใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่ตอนที่น้ำมันนิ่ง มันสะท้อนเห็นทุกอย่าง
เวลาที่มันนิ่ง สมาธิมันได้ที่ ฟังอาจารย์แค่ครั้งเดียวก็จำได้หมด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-03-2011 เมื่อ 14:36
|