ดูแบบคำตอบเดียว
  #44  
เก่า 11-06-2016, 19:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,109 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่จิตฟุ้งซ่าน นอกจากอานาปานสติแล้ว ยังมีกรรมฐานกองอื่นที่แก้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มีเลย ถ้าไม่เอาอานาปานสติก็หยุดความฟุ้งซ่านไม่ไหวหรอก อานาปานสติเป็นพื้นฐานของกรรมฐานทุกกอง ยิ่งมีความฟุ้งซ่านยิ่งจำเป็นจะต้องหยุดด้วยอานาปานสติ บางคนบอกว่าผมไม่เห็นต้องใช้อานาปานสติเลย แค่คิดก็หยุดได้แล้ว อันนั้นแสดงว่าข้ามขั้นไปจนเป็นฌานแล้วแต่ตัวเองไม่รู้

ถาม : บางท่านก็บอกว่า อารมณ์นี้ละเอียดเกินไป อย่างนี้เป็นความเห็นที่ถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับระดับกำลังใจของเขา กำลังใจของเขายังไม่ถึงตรงจุดนั้น ก็จะรู้สึกว่าละเอียดเกินไป หนักเกินกำลังของตน แปลว่ากำลังใจต่ำมาก

ถาม : ....(ไม่ชัด).....อย่างนี้จะเรียกว่าช่วยได้ไหมครับ ?
ตอบ : จะเรียกว่าช่วยได้ก็ช่วยได้ แต่ถ้าไม่มีอานาปานสติคอยคุมอยู่ สติก็ไม่มั่นคง ไปกำหนดทีเดียวหมดก็พลาดจนได้

ถาม : ขนาดเดินอยู่ก็พลาดจนได้ ถ้าไม่มีอานาปานสติคอยคุม ?
ตอบ : ใช่...คุณเดินอยู่ก็คิดไปหลายร้อยเรื่องแล้ว บางทียังไม่รู้ตัวเลย

ถาม : แสดงว่าขณะกำหนดสติ ก็จำเป็นต้องมีอานาปานสติ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วจำเป็นต้องมีเลย เพราะว่าสติจะรู้ตัวก็ต้องมีตัวควบคุม ก็คืออานาปานสติ

ถาม : ถ้าเจริญพุทธานุสติแทน ก็เป็นการเจริญสติได้เหมือนกัน ?
ตอบ : เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะเจริญสติแบบไหน ถ้าไม่เอาอานาปานสติไปคุม ก็ได้แค่พื้นฐานขั้นต้น ซึ่งไม่มั่นคง พอกระทบก็พัง จำเป็นต้องแทรกอานาปานสติเข้าไป โบราณเขาถึงให้ภาวนาอานาปานสติโดยใช้คำว่า "พุทโธ" เท่ากับทำสองอย่างควบกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2016 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา