ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 04-10-2013, 05:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,171 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท้ายสุดตัววิจิกิจฉา ซึ่งไม่มีปัญหาสำหรับพวกเรา เพราะว่าถ้าเราลังเลสงสัยในผลของการปฏิบัติ เราก็จะไม่มาเริ่มต้นนับหนึ่งกันอย่างนี้ ถ้าเรามาเริ่มต้นปฏิบัติภาวนาเช่นนี้ ก็แปลว่าความสงสัยของเรามีน้อยแล้ว ก็ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไป จนเกิดผลในระดับใดระดับหนึ่งขึ้นมา ความสงสัยของเราก็จะหายไปเอง นี่คือวิธีการแก้ไขเมื่อสภาพจิตของเราเผชิญกับกิเลสหยาบคือนิวรณ์ ๕

หลังจากนั้นเมื่อเราก้าวข้ามนิวรณ์ได้แล้ว สมาธิก็จะเริ่มทรงตัว ถ้ามีลมหายใจเข้าออกอยู่ เราก็กำหนดดูลมหายใจเข้าออก ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่เราก็กำหนดคำภาวนาไป ถ้าลมหายใจเบาลง ก็ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป ก็ให้กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป เอาใจจดจ่อแน่วแน่อยู่กับความรู้สึกเช่นนั้น หรือท่านใดจะกำหนดภาพพระ เอาใจจดจ่อกับพระ หรือว่ายกจิตขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพานก็ได้ แล้วรักษาอารมณ์ภาวนาของเรา ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าอย่างนี้เราก็มีสิทธิ์ที่จะก้าวพ้นอำนาจของนิวรณ์ทั้งห้าได้ในระยะเวลาที่ไม่นาน

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๖

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2013 เมื่อ 06:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา