ดูแบบคำตอบเดียว
  #82  
เก่า 20-07-2010, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องนี้เกิดจากความห้าว ประเภทไม่รู้จักเสือเอาเรือมาจอด เรื่องมีอยู่ว่า เด็กหนุ่มสี่คนเอนทรานซ์ติด คิดไปฉลองกัน ตกลงกันว่าไปทุ่งใหญ่

เด็กทั้งสี่คนรู้จักทุ่งใหญ่แต่ชื่อ เห็นระยะทางไม่ถึงร้อยกิโลเมตร ก็คิดว่าสบายมาก ว่าแล้วก็ลุยเข้าไปเลย ขณะนั้นพวกเราเดินธุดงค์ผ่านไปพอดี พอได้ยินเสียงรถ คุณแสงชัยกับคุณเต้ย เขาก็เกิดจินตนาการบรรเจิดว่า ไม่ต้องเดินแล้ว โบกรถดีกว่า ถึงเร็วดี

ความเฮงจึงมาเยือน ปรากฏว่าขึ้นรถเขาไปได้ไม่นาน รถเขาก็เจ๊ง ไหน ๆ อาศัยเขามาแล้วก็ช่วยกันเข็น คลุกโคลนคลุกเลนชนิดท่วมตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าของรถก็ถอดใจ ตัดสินใจที่จะทิ้งรถ อาตมาบอกว่า "ไม่ได้..เอ็งไม่ต้องเข็น ถือพวงมาลัยอย่างเดียว อย่าเสือกออกความเห็น..!"

ตอนนั้นลำบากขนาดเจ้าของเขาถอดใจแล้ว เพราะไม่ใช่ทางราบ ใครเคยไปทุ่งใหญ่จะรู้ ถนนเป็นร่องลึกขนาดรถโฟร์วีลยังติด แล้วช่วงเนินสูงอย่างกับขึ้นลิฟต์เลย เวลาขึ้นเนินก็ช่วยกันดันรถขึ้นไปทีละนิ้ว ๆ แล้วก็เอาไม้รองเขยิบไปเรื่อยจนกว่าจะถึง

พอถึงยอดเนินแต่ละครั้งก็กระโดดขึ้นรถ แล้วก็ปล่อยให้ไหลลง สนุกอย่าบอกใคร..! งานนั้นไม่ได้ตั้งใจเป็นพระเอก แต่ต้องเล่นบทพระเอกตลอด ตอนแรกที่รถสตาร์ทไม่ติด คิดว่าแบตเตอรี่อ่อน เราก็แบกแบตเตอรี่เดินจากเหมืองพุจือ ออกมาบ้านจะแก จำไม่ได้ว่ากี่กิโลเมตร

นายปราโมทย์ นักศึกษาที่เพิ่งเอนทรานซ์ติด ตัวใหญ่ขนาดหนุ่มชินเชาวน์ แบกหม้อแบตเตอรี่ไหว แต่เขาเดินไม่ได้ เพราะพื้นเป็นโคลนเละเทะ พอก้าวทีก็หงายท้อง อาตมากลัวแบตเตอรี่จะเสีย ก็เลยต้องแบกแทน

แบกมาจนถึงบ้านจะแก ไปขอชาร์ตที่แผงโซล่าร์เซลล์ ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืน ต้องรอจนกว่าจะสว่าง พอสว่างแล้วฝนดันตกอีก แทบจะไม่มีแดด สรุปว่า พอเอาแบตเตอรี่เข้าที่ชาร์ตเขาก็นอน อาตมาต้องเดินกลับมาเพื่อเฝ้ารถ ปล่อยให้พวกที่นอนนั้น หาข้าวหาปลากินกันในหมู่บ้านจะแก

สมัยนั้นข้างนอกน้ำมันลิตรละ ๖ บาท ข้างในนั้นลิตรละ ๒๕ บาท..! คราวนี้รถที่ไปเป็นรถเบนซิน เขาไม่รู้ว่าในป่ามีแต่ดีเซล หาเบนซินเติมไม่ได้ แล้วรถต้องใช้เกียร์ต่ำตลอด ก็เลยกะผิด กะว่าน้ำมันถังเดียว ๙๐ กว่ากิโลผ่านได้แน่ ปรากฏว่าหมดเกลี้ยง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2010 เมื่อ 16:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา