อุ้มหมาไทยไปถึงประเทศอเมริกาแล้วปล่อย ไปเจอหมาอเมริกันก็คุยกันรู้เรื่อง ไปประเทศจีนปล่อยลงไปก็คุยรู้เรื่องทั้ง ๆ ที่เป็นหมาไทย แล้วทำไมเราฝึกภาษาแทบตายกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง ? เพราะว่าโดยธรรมชาติแล้วสัตว์มีภาษาเสียง ภาษากาย ภาษาใจ เขาใช้ได้ ๓ อย่าง พวกเราตอนนี้แทบจะเหลือแต่ภาษาเสียงอย่างเดียวแล้ว
ถ้าอยากดูภาษากายให้ชัด ๆ ต้องไปประเทศอินเดีย ดูแขกเขาทำท่า การแสดงออกจะชัดเจนมากเลย ให้เราอ่านออกเลยว่าตอนนี้แขกอยู่อารมณ์ไหน นั่นคือภาษากาย แบบเดียวกับหมา ถ้าพองขนแยกเขี้ยวเมื่อไรก็แปลว่ากูจะเอาแล้วนะ แต่ถ้านอนหงายตีนชี้ฟ้าแปลว่ายอมแพ้แล้ว เป็นภาษาที่เขาเข้าใจกันทั้งโลก
ส่วนภาษาใจนั้นสัตว์ยังมีอยู่ แต่คนเราร้อยละ ๙๙.๙๙ เสื่อมหมดแล้ว ต้องฝึกฝนกันอย่างหนักกว่าที่จะใช้ภาษาใจได้เหมือนเดิม ภาษาใจเป็นภาษาต้น ภาษาดั้งเดิมของมนุษย์และสัตว์ สามารถสื่อกันได้ทั่วทุกตัวคนและสัตว์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เสียงที่เป็นภาษาพูด
สังเกตว่าส่วนใหญ่แล้วหลวงพ่อที่ท่านธุดงค์ไปตามป่าตามเขา จะมีประสบการณ์ในการสื่อสารกับสัตว์ต่าง ๆ ได้ ก็เพราะว่าทั้งหมดล้วนแล้วแต่รักสุขเกลียดทุกข์เหมือนกัน ชอบความสบายรังเกียจความลำบากเหมือนกัน ในเมื่อมีสภาพจิตคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะทำอะไรก็สามารถสื่อถึงกันได้ แต่ของเราเองอยู่ในเมือง โดนสารพัดกิเลส โดยเฉพาะกระแสบริโภคนิยม ถมทับเสียจนกระทั่งสภาพจิตของเรามืดบอดไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2017 เมื่อ 17:43
|