ดูแบบคำตอบเดียว
  #164  
เก่า 04-02-2013, 14:17
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

มั่นคงธุดงค์วัตร

ในระยะที่อยู่กับหลวงปู่มั่น ท่านจะสอนให้เราเป็นคนกินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ปฏิบัติให้มาก หรือให้เป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย นอนง่าย การไปการมาง่าย หมายถึงไม่ทำตนเป็นผู้ยศหนักศักดิ์ใหญ่ เป็นประเภทกรรมฐานขุนนาง หรู ๆ หรา ๆ แต่วัตถุสิ่งของภายนอก แต่จิตใจหาคุณความดีมิได้เลย อันนี้ท่านไม่สรรเสริญ ท่านชื่นชมบุคคลประเภทอ่อนน้อมถ่อมตน ทำตัวประดุจผ้าขี้ริ้ว แต่ภายในใจนั้นหรูหรางดงามด้วยธรรม จะเรียกว่าเศรษฐีธรรมก็ไม่ผิด

ท่านเล่าถึงอุปนิสัยในการบำเพ็ญภาวนาของท่านว่า

“...มาอยู่บ้านหนองผืออย่างนี้ ผมจะเดินจงกรมให้หมู่เพื่อนเห็นไม่ได้ โน่น...ต้องเวลาสงัด สี่ทุ่มห้าทุ่มล่วงไปแล้ว หมู่เพื่อนเงียบหมดแล้วถึงจะลงเดินจงกรม กลางวันก็เข้าไปอยู่ในป่าโน้น ถ้าวันไหนออกมาแต่วันเช่นห้าโมงเย็น .. ออกมาอย่างนี้ก็เข้านั่งสมาธิเสียในกุฏิ จนกระทั่งหมู่เพื่อนเงียบไปหมดแล้วถึงจะลงทางจงกรม เป็นนิสัยอย่างนั้นมาดั้งเดิม


ไม่ให้ใครเห็นการประกอบความเพียรของเรา ว่ามากน้อยขนาดไหน แต่ธรรมดา.. ใครก็รู้ ทางจงกรมจนเป็นหลุมเป็นเหวไป ใครจะไม่รู้ เดินจงกรมกี่ชั่วโมงมันถึงจะเป็นขนาดนั้น อยู่ในป่าก็ดี อยู่ในวัดก็ดี มองดูก็รู้ แต่หากนิสัยเป็นอย่างนั้น ทางภาษาอีสานเขาเรียกว่า คนนิสัยหลักความ คือการลัก ๆ ลอบ ๆ ทำสมาธิภาวนาอยู่คนเดียว เราไม่สนิทใจที่จะทำความเพียรให้ใครต่อใครเห็นอย่างโจ่งแจ้ง...”

การถือธุดงค์ ๑๓ เป็นเครื่องชำระกิเลสของพระ ที่ทุกองค์ต่างตั้งใจสมาทานกันทั้งวัด ท่านเองก็สมาทานอย่างจริงจังเช่นเดิม แต่ต่อมาไม่นาน.. หมู่เพื่อนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ท่านจึงถือเอาสิ่งนี้เป็นพระธรรมเทศนากัณฑ์สำคัญปลุกใจตนเอง ดังนี้

“...เวลาเข้าพรรษาก็ต่างองค์ต่างสมาทานธุดงค์กันทั้งวัด ครั้นสมาทานแล้วไม่กี่วันมันก็ล้มไป ๆ นี่ก็ส่อแสดงให้เห็นความจริงจังหรือความล้มเหลวของหมู่คณะ


เมื่อได้เห็นอาการของหมู่คณะเพื่อนเป็นเช่นนั้น ทำให้เกิดความอิดหนาระอาใจไปหลายแง่หลายทาง เกี่ยวกับหมู่คณะ จิตใจยิ่งฟิต ปลุกใจตัวเองให้แข็งขัน และย้อนมาถามตัวเองบ้างว่า

‘ไง..เราจะไม่ล้มไม่เหลวไปละหรือ ? เมื่อเหตุการณ์รอบข้างเป็นไปอย่างนี้’


ก็ได้รับคำตอบอย่างมั่นใจว่า ‘จะเอาอะไรมาให้ล้มให้เหลวล่ะ ก็ตัวใครตัวมัน’ ประกอบกับนิสัยเราเป็นอย่างนี้มาดั้งเดิมอยู่แล้ว ทำอะไรต้องจริงทั้งนั้น ทำเล่นไม่เป็น เราจะล้มไม่ได้ นอกจากตายเสียเท่านั้น

ฉะนั้น ความเปลี่ยนแปลงของหมู่เพื่อน จึงเป็นราวกะว่าแสดงพระธรรมเทศนากัณฑ์หนึ่ง ให้เราฟังอย่างถึงใจ...”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2013 เมื่อ 16:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา