ถาม : จริง ๆ อยากรู้จิตผู้อื่น แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่าให้ดูจิตตัวเอง ?
ตอบ : เจโตปริยญาณเขาให้ดูจิตตัวเอง ดูจิตคนอื่นไม่ค่อยมีประโยชน์ ยกเว้นคนเป็นครูบาอาจารย์ ดูของคนอื่นเพื่อแก้ไขให้เขา โดยปกติแล้วเจโตปริยญาณเขาให้ดูจิตตัวเอง จิตใจตอนนี้มีความชั่วอะไรอยู่หรือเปล่า ? ถ้ามีก็ขับไล่ออกไป ระมัดระวังไว้อย่าให้เข้ามา จิตใจของเรามีความดีอยู่หรือเปล่า ? ถ้ายังไม่มีก็สร้างให้มีขึ้นมา ถ้ามีแล้วก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่ใช่ครูไม่ใช่อาจารย์ ไม่ต้องเสียเวลาไปดูคนอื่นหรอก
ถาม : ถ้าอดีตเคยได้อภิญญามา ?
ตอบ : วิสัยเดิมมาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น
ถาม : เปลี่ยนไม่ได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่เปลี่ยนไม่ได้ แต่ยินดีพอใจแค่นั้น ที่เรารู้สึกว่าอยากจะได้อย่างนั้นอย่างนี้ แสดงว่าวิสัยเดิมมาอย่างนั้น แบบที่ภาษิตทางเหนือเขาบอกว่า "ทางหนู..หนูไต่ ทางไหน่...ไหน่เตียว" หนูก็ไปตามทางที่ตนไป กระรอกกระแตก็ไปตามทางของตนเอง ในเมื่อเราชอบอย่างนั้น ก็ไปของเราเอง ไม่ต้องไปบังคับหรอก พอถึงเวลาถ้าเราชอบอย่างนั้นจริง ๆ แสดงว่าวิสัยเดิมของเราเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ปัจจุบันนี้ที่ยังได้ไม่เต็มที่เพราะยังอยากอยู่ นักปฏิบัติถ้าอยากจะไม่ได้ มักจะมาตอนหมดอยากแล้ว
ถาม : เป็นเพราะเรายึดติดกับอดีตหรือเปล่า ?
ตอบ : ยึดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก กองไว้ตรงนั้นแหละ อดีตเลยมาแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ปัจจุบันสำคัญที่สุด อย่าลืมว่าไม่ว่าจะเรื่องของศีล ของธรรม ของกฎหมายบ้านเมือง เขาถือปัจจุบันเป็นใหญ่ ถ้าทำผิดก็ติดคุกชาตินี้ ไม่ใช่ไปติดคุกชาติหน้า
ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ใด ๆ ก็ตาม ความสำคัญใด ๆ ก็ตาม ฟังให้ดี ๆ นะ เคยเป็นนั่นเป็นนี่ เคยเป็นอย่างนั้นอย่างนี้กับผู้ใดมา ถึงปัจจุบันถือว่าทิ้งไปได้เลย เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ถ้ามัวไปดูอดีตอยู่ก็ไม่ไปไหนหรอก ติดอยู่แค่นั้น แทนที่จะหลุดได้กลับไปฟื้นความสัมพันธ์กลับคืนมา กลายเป็นผูกพันกันมากขึ้น ในเมื่อทั้งผูกทั้งพันก็ไม่ต้องไปไหนหรอก ติดอยู่แค่นั้นแหละ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2013 เมื่อ 15:12
|