ดูแบบคำตอบเดียว
  #392  
เก่า 16-12-2018, 13:14
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,548 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ศพคน ๆ เดียว ประเทศไทยไม่พอ

เรื่องการเกิดตายของคนแต่ละคน ๆ นี้ ท่านเคยกล่าวอย่างถึงใจให้เห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิด และรีบเร่งขวนขวายสร้างคุณงามความดีใส่ตนให้มาก ดังนี้


“... การเกิดการตายนี้ เกิดตายทับถมกันมานี้ สักเท่าไร ๆ แต่ละศพแต่ละคน ๆ มันรู้ไปหมด เวลามันรู้นะ เอาให้มันจริง ๆ จัง ๆ อย่างนี้เลยนะ มันจึงขยะแขยง

‘โห..มันผ่านของมันออกแล้ว มันก็ยังขยะแขยงอยู่นะ โถ ! แต่เวลามันจมอยู่ มันไม่ขยะแขยงนะ บืนอยู่อย่างนั้น เวลามันผ่านออกมาแล้ว มันถึงได้เห็นโทษของมัน ขยะแขยงนะ’

คนหนึ่งสัตว์ตัวหนึ่ง ๆ นี้ ถ้าไม่มีบุญไม่มีกุศลแล้วไม่มีความหมายเลย วนเวียนตายเกิด ตายสูงตายต่ำ ตายเกิดอยู่อย่างนั้นตลอด ตลอดกี่กัปกี่กัลป์ คนหนึ่ง ๆ นี้เอามากอง.. ประเทศไทยนี้ไม่พอกอง ศพของคนคนหนึ่งที่ตายเกิด ๆ เป็นสัตว์ประเภทใดก็ตามมารวมกันนี้

เพียงคนคนเดียวเท่านั้นทั่วประเทศไทยเรานี้ หาที่กองศพไม่มีเลย นานขนาดไหน กี่กัปกี่กัลป์ที่ตายเกิดตายทับกองกันอยู่นี่น่ะ เรียกว่าตายกองกัน ล้วนแล้วตั้งแต่จิตนี่ออกไปร่างนั้นแล้วเข้าสู่ร่างนี้ เข้าสู่ร่างไหนก็ว่าเกิด ร่างไหนหมดสภาพก็ว่าตาย ๆ ว่าเกิดว่าตาย ๆ มันหากหมุนของมันอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา นี่ละวัฏวนวัฏจักร...

สิ่งที่มาแก้คืออะไร บุญกุศลเราสร้างมากน้อยเท่าไร ๆ มารวมกัน แล้วค่อยแก้ไปแก้มา แก้มาก ๆ เข้า.. บุญกุศลก็มากเข้า ความหนาแน่นของการแก้ก็หนาแน่นเข้า ๆ อันนี้ก็ค่อยจางไป ๆ ก็สว่างจ้าออก สว่างจ้าก็ดีดผึง ๆ เลย

นี่ละพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ มองดูหัวใจสัตว์โลกที่เขาไม่มีศาสนา คือเขาไม่ได้มองดูหัวใจเลย เขาดูแต่วัตถุเท่านั้น...”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2018 เมื่อ 20:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา