ชื่อกระทู้: ๗ ตำนาน
ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 03-02-2009, 15:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,838 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ๗ ตำนาน

เด็กรุ่นหลัง ๆ ไม่รู้ว่า ๗ ตำนาน และ ๑๒ ตำนานที่โบราณเขาว่า คืออะไร ? ๗ ตำนานก็เกี่ยวกับพุทธประวัติในวาระต่าง ๆ มีทั้งที่เป็นชาดกและพระสูตร

๗ ตำนานขึ้นที่ มงคลสูตร ที่เทวดาทั้งหลายเขาถกเถียงกันว่า อะไรเป็นมงคล ที่เราเรียกกันว่า มงคล ๓๘

แล้วก็ไป รัตนสูตร รัตนสูตรนี่เขาเรียก น้ำมนต์พระพุทธเจ้า เพราะว่าพระพุทธเจ้าให้พระอานนท์ทำน้ำมนต์ด้วยพระสูตรนี้ แล้วไปพรมเมืองไพศาลีที่เกิดโรคระบาด บรรดาอมนุษย์ที่ทำให้เกิดโรคระบาด ทนอำนาจน้ำพระพุทธมนต์ไม่ได้ แย่งหนีออกไปจากเมือง กำแพงพังเป็นแถบ ๆ บทนี้หลวงพ่อฤๅษีท่านบอกไว้เลยว่า ใครต้องการทำน้ำมนต์เองก็ได้ ให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ท่องรัตนสูตรด้วยความเคารพ หยดเทียนลงบนน้ำมนต์ แล้วอธิษฐานใช้เอา

หลังจากนั้นจะเป็นพวกชาดกต่าง ๆ เช่น วัฏฏกปริตร อันนี้เป็นเรื่องของลูกนกคุ่ม ที่ท่านเพิ่งจะเกิดไม่นาน เดินก็ยังไม่ได้ บินก็ไม่ได้ แล้วไฟป่าไหม้มา ท่านจึงตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ตัวท่านเองถึงแม้จะมีพ่อแม่ ท่านก็ออกไปหากิน มีปีกก็ยังบินไม่ได้ มีเท้าก็ยังเดินไม่ได้ ด้วยสัจจะบารมีอันนี้ ขอให้ไฟอย่าได้ทำอันตรายเลย ไฟที่มาแรงขนาดนั้นก็ดับหมด เขาจึงใช้เป็นคาถากันไฟ โบราณเขาวาดเป็นรูปนกคุ่มแล้วเขียนหัวใจคาถา สันติ ปักขา อะปัตตะนา ก็คือ มีปีกก็บินไม่ได้ สันติปาทา อะวัญจะนา มีเท้าก็เดินไม่ได้ มาตา ปิตา จะ นิกขันตา พ่อแม่ก็ออกไปหากิน ทำเป็นรูปนกคุ่มแล้วเขียนคาถานี้ไว้ เอาไว้กันใช้ไฟ

ต่อไปก็เป็นตำนานของนกยูงทอง เขาเรียก โมรปริตร ที่พญานกยูงทองสวดทุกวัน อันนี้สมัยอาตมายังอยู่กับหลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ฝั้นเอาหัวใจนกยูงทองเป็นคาถาแคล้วคลาดปลอดภัยประจำตัว ให้สวดทุกวันตื่นนอนและก่อนนอนเหมือนกับนกยูง นกยูงท่านตื่นนอนขึ้นมาก็สวดคาถาบทนี้ ก่อนจะเข้านอนก็สวดคาถาบทนี้ ไม่มีพรานคนไหนดักนกยูงได้ตลอด ๗๐๐ ปี

พอไปเจอนายพรานที่มีความสามารถเข้า รับอาสาพระเจ้าแผ่นดินไปจับ เพราะมีหนังสือเขียนบอกเล่าไว้จากพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งสู่พระองค์หนึ่งว่า ใครได้กินเนื้อนกยูงตัวนี้จะเป็นอมตะ ไม่ตาย พรานเขาฉลาด เขาจึงเอานกยูงตัวเมียที่ฝึกมาอย่างดี บอกให้ส่งเสียงร้องเมื่อไรก็ร้อง แล้วก็เอาไปผูกไว้ใกล้ ๆ ที่พระโพธิสัตว์จะสวดมนต์ทุกเช้า

พอถึงเวลาเห็นพระโพธิสัตว์บินมาจะสวดมนต์ นายพรานก็ส่งสัญญาณ นกตัวเมียก็ร้อง พอได้ยินเสียงตัวเมียพระโพธิสัตว์ลืมการท่องคาถาหมด ก็เลยติดบ่วง แต่ว่าท่านโดนจับไปแล้ว ก็ไปให้โอวาทพระเจ้าแผ่นดิน ถึงความเป็นจริงว่า แม้แต่ตัวท่านเองก็ตาย เพราะฉะนั้นคนที่กินเนื้อท่านไป ไม่ใช่ว่าจะอายุยืนอย่างที่เขาว่า แต่เกิดจากความอาฆาตที่จะจับนกยูงตัวนี้แล้วจับไม่ได้สักที ก็เลยใช้วิธีจารึกลงแผ่นทองใส่เอาไว้ ถึงเวลาก็เหมือนเป็นทรัพย์สมบัติที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ให้เขาไล่จับกันต่อ ๆ เพราะฉะนั้น..ถ้าจะใช้คาถาบทนี้ ถึงเวลาได้ยินเสียงเพศตรงข้ามก็ท่องให้จบก่อน แล้วค่อยไป

ต่อไปก็เป็น ขันธปริตร ก็คือ ตำนานเกี่ยวกับภิกษุโดนงูกัด แล้วพระพุทธเจ้าท่านก็ให้ท่องคาถา เจริญเมตตาต่อพระยางูทั้ง ๔ เหล่า ที่ขึ้นด้วย วิรูปักเขหิ เม เมตตัง

แล้วถัดไปก็เป็น ฉัตทันตปริตร อันนี้เป็นตำนานพระยาฉัททันต์ที่แม้จะโดนศรอาบยาพิษ จะถึงแก่ชีวิต ก็ยังไม่ยอมทำร้ายนายพราน ยอมสละงาของตัวเองให้กับนายพรานไป

แล้วบทสุดท้ายก็คือ ธชัคคสูตร บางคนเขาเรียกว่า เทวาสุรสงคราม กล่าวถึง สงครามระหว่างอสูรกับเทวดา พระอินทร์ท่านบอกว่า ถ้าหากว่าไปรบกับอสูรแล้วกลัว ขอให้เทวดาทั้งหลายดูธงนายทัพไว้ ถ้าหากว่าดูธงนายทัพไว้แล้วยังเกิดความกลัว ก็ให้ดูธงของพระอินทร์ไว้ ถ้าธงยังอยู่ก็แสดงว่าแม่ทัพยังอยู่ ไม่ต้องกลัว รบกับเขาเข้าไป

พระพุทธเจ้าท่านนำมาตรัสกับพระว่า ถ้าพระทั้งหลายเกิดความสะดุ้งกลัวก็ให้ทำอย่างนี้ แต่ว่าธงของพระพุทธศาสนาก็คือ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ท่านให้สวดอิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ แล้วความกลัวทั้งหลายจะหายไป นี่แหละคือเจ็ดตำนาน แปลว่าเรื่อง ๗ เรื่องที่เกิดขึ้น มีทั้งที่เป็นพระสูตรและชาดก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2014 เมื่อ 09:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 99 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา