พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยที่ยังอยู่ที่บ้านอนุสาวรีย์ฯ มีสาววัยรุ่นคนหนึ่งชื่อมีมี่ น่าจะเรียนมัธยมปลายหรือไม่ก็มหาวิทยาลัยปีแรก แกถามปัญหาสารพัด อาตมาก็นั่งทำนั่นทำนี่แล้วก็ตอบไปเรื่อย ๆ เขาโกรธมาก เขาบอกว่า เขาต้องทุ่มเทความคิดและสติปัญญาทุกอย่างเพื่อถาม หลวงพ่อทำโน่นทำนี่แล้วก็ตอบไปเรื่อย ๆ พูดง่าย ๆ คือของอาตมาสบาย ๆ ขณะที่เขาต้องทุ่มสุดตัว
อาตมาก็บอกกับเขาว่า ถ้าเราฝึกไปถึงระดับหนึ่ง ความละเอียดของใจมีมากขึ้น จะทำงานหลายอย่างได้พร้อม ๆ กัน นึกขำตอนที่เขาโกรธ เขาโกรธแบบเด็ก ๆ เลย ทุ่มเทสติปัญญาความรู้ความสามารถทั้งหมดตั้งคำถาม แต่หลวงพ่อเล่นทำงานไปตอบไป
ถ้าคนฝึกมโนมยิทธิมา มีความคล่องสักนิดหนึ่ง ก็ทำแบบนี้ได้ทุกคน เพราะว่าเรื่องของมโนมยิทธิ ใจของเราส่วนหนึ่งต้องอยู่กับพระ ใจของเราอีกส่วนหนึ่งต้องควบคุมการทำงานของร่างกายจนเคยชิน
วันก่อนที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ที่หลวงตาวัชรชัยท่านพูดว่า ในเรื่องของความชัดเจนของมโนมยิทธิ ต้องยกให้อาตมา ความจริงที่ได้มาก็เกิดจากการฝึกฝน ขอยืนยันว่าต้องฝึกหนักมาก หลังจากที่ฝึกมโนมยิทธิได้ก็ซักซ้อมครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะซ้อมอยู่ข้าง ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงกับหลวงปู่ธรรมชัย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-09-2015 เมื่อ 19:09
|