ดูแบบคำตอบเดียว
  #42  
เก่า 13-07-2014, 12:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,138 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๓ เดือน มีการทำสังคายนาพระธรรมวินัยที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา พระอานนท์ได้ประกาศขึ้นกลางที่ประชุมสงฆ์ว่า พระพุทธเจ้าสั่งให้สงฆ์ลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ พระมหากัสสปะที่เป็นประธานในที่ประชุม สอบถามความเห็นทุกคนแล้ว ไม่มีใครคัดค้าน ก็ประกาศลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ ห้ามภิกษุทุกรูป ร่วมกิน ร่วมนอน ร่วมสังฆกรรมใด ๆ กับพระฉันนะทั้งสิ้น

พระฉันนะอายุ ๘๐ กว่า ๆ เพราะท่านเกิดพร้อมพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ถวายพระเพลิงไปเรียบร้อยแล้ว ได้ยินว่าพระทำสังคายนาพระธรรมวินัยก็ใจจดใจจ่อ อยากดูว่าเขาทำกันอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่แปลกใจว่าสังคายนาเสร็จแล้ว ไม่มีพระมาบอกสักรูปเดียวว่าเขาทำอะไรกันในนั้น ก็โดนห้ามกิน ห้ามนอน ห้ามทำสังฆกรรมด้วยแล้วนี่

พอดีมีสามเณรเดินผ่านมา เณรไม่โดนห้าม ท่านห้ามเฉพาะพระ พระฉันนะก็สอบถามสามเณรว่า "ผลของการสังคายนาเป็นอย่างไร ทำไมไม่มีพระมาแจ้งฉันบ้าง ?" พูดกันภาษาชาวบ้านก็คือ "ข้าก็เป็นผู้ใหญ่ ทำไมพอประชุมกันเสร็จแล้วไม่มีการมาบอกมากล่าวกันบ้าง" สามเณรก็บอกว่า "พระอานนท์ได้ประกาศในที่ประชุมสงฆ์ว่า สมเด็จพระบรมศาสดาสั่งลงพรหมทัณฑ์แก่ท่าน" พระฉันนะก็สะดุ้ง ถามว่าลงพรหมทัณฑ์อะไร สามเณรตอบว่า ประกาศไม่ให้สงฆ์ร่วมกิน ร่วมนอน ร่วมสังฆกรรมกับท่านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

พระฉันนะได้ยินเป็นลมไปเลย ท่านต้องตะเกียกตะกายไปขอเข้าพบพระอานนท์ บาลีท่านใช้คำพูดตลก ๆ ประโยคหนึ่งว่า พระอานนท์ขอความคุ้มครองจากคณะสงฆ์ จึงยอมให้พระฉันนะเข้าพบได้ ทำไมพระอานนท์ต้องขอความคุ้มครองจากคณะสงฆ์ ก็เพราะเกรงว่าพระฉันนะจะลุยไปอัดเอา ลองนึกดูให้ดีนะ อย่าคิดว่าท่านอายุ ๘๐ นะ คนสมัยโบราณอายุ ๘๐ ยังแข็งแรงมาก แล้วพระฉันนะท่านแข็งแรงเหนือมนุษย์อยู่ด้วย

ถามว่าทำไมแข็งแรงเหนือมนุษย์ ? วิเคราะห์ได้จากในพระไตรปิฎกได้กล่าวถึงในหลายวาระด้วยกัน ที่เห็นถนัดชัดเจนที่สุด ก็คือเมื่อพระพุทธเจ้าจะออกมหาภิเนษกรมณ์แล้วประตูเมืองปิด นายฉันนะคิดว่า "เราจะอุ้มม้ากัณฐกะที่มีพระลูกเจ้านั่งอยู่บนหลัง กระโดดข้ามกำแพงไป" แข็งแรงขนาดนั้นพอจะให้กลัวได้หรือยัง ? ไม่ใช่อุ้มคนเฉย ๆ นะ ม้าอีกตัวหนึ่งด้วย บุคคลที่ได้รับการคัดสรรมา ฝึกฝนให้เป็นองครักษ์ประจำกายของเจ้าชายสิทธัตถะ ตลอดจนกระทั่งเป็นองครักษ์ของว่าที่พระเจ้าจักรพรรดิ ฝีมือต้องระดับไหน คาดว่าในแผ่นดินคงจะหาผู้เปรียบได้ยาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2014 เมื่อ 12:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา