หลวงพ่อหนู : หลวงพี่ช่วยย้ำประโยคสักครู่อีกทีครับ
หลวงพ่อเล็ก : การจะหลุดพ้นจากกิเลส คือเราคลุกคลีอยู่กับกองกิเลสเป็นปกติ เพราะว่ากรรมนำมาให้เราเกิดในกองกิเลสนี้ ในเมื่อเราก้าวล่วงพ้นออกไป ถึงจะกล่าวได้ว่าเราพ้นจากกิเลส ถ้าเราไม่ได้อยู่ในกองกิเลส แล้วไปบอกว่าเราก้าวพ้นจากกองกิเลสมา ไม่ใช่วิสัยที่จะเป็นไปได้
กิเลสชัดเจนขึ้น เลยทำให้เรารู้สึกว่ามีมากขึ้น จริง ๆ แล้วไม่ได้มากขึ้นหรอก มีเท่าเดิม เพราะฉะนั้น..สู้ต่อไปไอ้มดแดง อย่าถอยเสียก่อนนะ..!
วันนี้นับเป็นโอกาสอันดี ที่เราได้บุคคลรุ่นที่ทันหลวงปู่สมเด็จฯ วัดสามพระยา ทันหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านได้มาบอกกล่าวในสิ่งที่ท่านได้รับไปจากหลวงปู่หลวงพ่อทั้ง ๒ องค์ ได้ทำความเข้าใจในสิ่งนั้น แล้วนำมาบอกพวกเรา ทำให้พวกเรารู้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างได้ชัดเจนขึ้น แล้วการที่เราจะก้าวเดินต่อไปในเบื้องหน้าก็จะง่ายและสะดวกขึ้น เรียกว่าพอวาระบุญมาถึง เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็มาบรรจบกัน
เพราะว่าปกติแล้วหลวงพ่อหนูของเราท่านมาตรงนี้ไม่ถูกหรอก ท่านไม่ค่อยได้ออกไปไหน นอกจากไปเรียนแล้วท่านก็กลับกุฏิ มีแค่นั้นจริง ๆ ยังดีว่าวันนี้ ดร.เอ อุตส่าห์พาท่านมา คนเยอะ ๆ แบบนี้ปกติท่านเผ่นแน่บไปแล้ว ไม่เอาหรอก เข้ากุฏิดีกว่า
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2012 เมื่อ 16:02
|