ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 23-10-2020, 09:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,784 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเบื้องกลางเราต้องเห็นให้ชัดเจนว่า สภาพร่างกายของเรานี้เต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก มีแต่อวัยวะภายในใหญ่น้อยน่าเกลียด มีเพียงหนังและเลือดเนื้อที่หุ้มห่ออยู่ มีความสกปรกเป็นปกติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ตัวเราก็เป็นเช่นนี้ คนอื่นก็เป็นเช่นนี้ สัตว์อื่นก็เป็นเช่นนี้

ถ้าเรารู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย เห็นสภาพร่างกายของเรามีแต่ความสกปรกโสโครกน่าเบื่อหน่าย สภาพจิตก็เริ่มจะถอนจากการยึดมั่นถือมั่นในอัตภาพร่างกายนี้

แล้วเราก็ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริง ว่าสภาพร่างกายนี้เป็นเพียงเครื่องอาศัยชั่วคราวของเราเท่านั้น สภาพที่แท้จริงไม่ได้เป็นแท่งทึบ นอกจากประกอบด้วยอวัยวะภายในใหญ่น้อยทั้งหลายทั้งปวงแล้ว หลัก ๆ เลยก็คือประกอบขึ้นจากธาตุ ๔ ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม เมื่อผสมรวมกันขึ้นมา มีหัว มีหู มีหน้า มีตา เราที่เป็นจิต มาอาศัยอยู่ตามบุญตามกรรมที่เราสร้างเอาไว้ เราก็ไปยึดมั่นถือมั่น..ว่าเป็นเรา..เป็นของเรา

ต้องพิจารณาแยกแยะให้ละเอียด ว่าส่วนที่แข็ง เป็นแท่ง เป็นก้อน เป็นชิ้น เป็นอัน คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ตลอดจนอวัยวะภายใน ภายนอก ใหญ่น้อยทั้งปวง ที่จับได้ ต้องได้นั้น เป็นธาตุดิน

ส่วนที่ชุ่มชื้น เอิบอาบ เคร่งตึงอยู่ในร่างกายของเรา ได้แก่ เลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำตา น้ำลาย น้ำดี เหงื่อ ปัสสาวะ ไขมันเหลวเหล่านี้ ประกอบขึ้นเป็นส่วนของธาตุน้ำ

ส่วนที่พัดไปมาในร่างกาย หรือว่าอยู่ในช่องว่างของร่างกาย ได้แก่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ลมในช่องหู ช่องจมูก ลมที่ค้างในท้อง ในใส้ ที่เรียกว่าแก๊ส ลมที่พัดขึ้นเบื้องสูง พัดลงเบื้องต่ำ พัดไปทั่วร่างกาย ที่เรียกว่าความดันโลหิต ส่วนนี้คือธาตุลม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-10-2020 เมื่อ 22:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา