คำสอนสมเด็จองค์ปฐม
ทุกสิ่งในโลก พระองค์จับเอาเป็นธรรมได้หมด
ผู้มีธรรมประจำอยู่ในจิต ย่อมมองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมได้หมด
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นทั้งสมถะและวิปัสสนา ถ้าเข้าใจ
สมถะ คือ ธรรมดาในธรรมนั้น ๆ
วิปัสสนา คือ ทุกข์หรืออริยสัจอันเป็นกฎของธรรมนั้น ๆ
ดังนั้น ท่านจึงหยิบยกขึ้นมาอุปมาอุปไมยเป็นคำสอนได้ เพราะเข้าใจและรู้แจ้งเห็นจริง
ธรรมดาในธรรมดา เห็นทุกข์ในธรรมดานั้น ๆ
ธรรมดาของโลกไม่เที่ยง ยึดเมื่อไหร่ก็ทุกข์เมื่อนั้น
อย่าคิดสงสัยในธรรม จงคิดพิจารณาในธรรม จักเห็นความจริงของกฎของธรรมทั้งปวง
เห็นทุกขสัจในทุก ๆ เรื่องที่ตถาคตกับพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ ตลอดจนพระสาวกแสดงมา
จิตพวกเจ้าจงกำหนดรู้ว่า ทุกข์ทั้งหลายนั้นมีจริง ให้ยอมรับในทุกข์นั้น ๆ
สร้างความเบื่อหน่ายทุกข์ให้เกิด จนจิตคลายจากอารมณ์กำหนัดในการเกาะทุกข์นั้น ๆ ลงได้ในที่สุด
บุคคลผู้มองไม่เห็นทุกข์ ก็มักจักไม่ยอมรับว่าทุกข์นั้นมีจริง
เป็นของจริงที่สิงอยู่ในจิตของผู้มากด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม
จึงทำให้มีอารมณ์กำหนัด ไปยึดมั่นถือมั่นในทุกข์ที่เกิดจากไฟโมหะ โทสะ ราคะ นั้น ๆ
เมื่อมองไม่เห็นทุกข์ จิตจึงไม่ยอมวางทุกข์ ตกเป็นทาสของอารมณ์
ด้วยไม่เห็นของจริงอันเป็นกฎของกรรม หรืออริยสัจนั้น ๆ
จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน