พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่องานวันแม่ ๑๒ สิงหาคม มีเพื่อนสหธรรมิก ๓-๔ ท่าน ติดงานไปไม่ได้ หลังจากนั้น ๑๖ วัน คือ วันที่ ๒๘ สิงหาคม ไปพบกันที่งานหล่อพระวัดสระพัง ของพระครูไพโรจน์ภัทรคุณ หลายท่านมาขอโทษขอโพย มีพระครูพิพัฒน์กิติสาร (หลวงพ่อสรวง) วัดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พระครูปฐมจินดาภรณ์ (หลวงพ่อสายชล) วัดไร่แตงทอง พระครูสุวรรณกิติธาดา (หลวงพ่อปิยะพงศ์) วัดเขาตะเภาทอง
เหตุที่ไม่ได้มาเพราะทางราชการขอตัวไปเจริญชัยมงคลคาถา ในงานทำบุญถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อาตมาเองก็เป็นขาประจำของเดือนธันวาคม ทางทองผาภูมินั้น พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิท่านจัดการได้ดี ท่านแบ่งอำเภอเป็นสองฟาก วันที่ ๑๒ สิงหาคม ฟากเหนือตั้งแต่ลิ่นถิ่นลงมา จนกระทั่งถึงสหกรณ์นิคมรับผิดชอบไป
พอมาวันที่ ๕ ธันวาคม ฟากใต้ตั้งแต่ตำบลท่าขนุนลงไปจนถึงตำบลปิล็อกรับผิดชอบ หาพระที่มีสัญญาบัตรพัดยศไปเจริญชัยมงคลคาถาให้ได้ จังหวัดอื่นระบบการจัดการยังไม่ดีแบบนี้ หรือไม่ก็อาจจะหาพระครูสัญญาบัตรได้ยาก พอถึงเวลาจึงต้องมาล็อกคอพรรคพวกไปหมด ก็น่าเห็นใจ เพราะพระครูสัญญาบัตรขึ้นไป นั้น ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงเวลางานหลวงก็ต้องไปออกงานโดยใช้พัดยศด้วย
อาตมาก็บอกว่าไม่เป็นไร งานของท่าน ถ้าอาตมาติดงานก็ไม่ได้ไปเหมือนกัน หลวงพ่อสายชลบอกว่า ไม่ได้ไปท่าขนุนมา ๖ ปีแล้ว ส่วนงานของท่าน อาตมาไม่ได้ไปมา ๒ ปีแล้ว ปีนี้กำลังเป็นปีที่ ๓ อยู่ ท่านทำบุญพรุ่งนี้ แต่ปีหน้าไปได้ ปีนี้ติดรับสังฆทานที่นี่จึงไปไม่ได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2016 เมื่อ 18:18
|