ถาม : วันงานพุทธาภิเษกที่วัดบ้านแค ได้มีโอกาสสนทนากับหลวงพ่อสำเริง ท่านบอกว่าท่านเป็นหลานหลวงปู่มุม วัดปราสาทเยอร์ ?
ตอบ : ก็ว่าไปเรื่อย ท่านเป็น “มวยแทน” นะ ตัวจริงนิมนต์แล้วมาไม่ได้ ส่งท่านมาแทน อาตมาก็เพิ่งจะได้คุยกันวันนั้น จะไปรู้จักอะไรมากมายเล่า ?
ถาม : หลวงปู่พร้าไม่ได้มา ?
ตอบ : หลวงปู่พร้ามาเองเลย องค์ที่พรมน้ำมนต์แล้วโปรยดอกไม้ถัดจากอาตมานั่นแหละ นั่นนะสุดยอดฝีมือเลย
ปกติเวลาไปไหนอาตมาไม่เคยไปนั่งตีกบาลญาติโยมคนไหนเหมือนกับที่วัดหลวงพ่อกวย แต่ที่โน่นเขาเล่นกันหนักขนาดจึงต้องกันเอาไว้ก่อน ไม่กันคนของเราไว้เดี๋ยวก็แย่
ขำ ๆ ตรงที่เห็นหลวงพ่อกวยเป็นนารายณ์ ๘ กรเลย มือนี้กันให้คนนั้น มือนั้นกันให้คนนี้ยุ่งไปหมด มีดหมอหลวงพ่อกวยเล่มนั้นตั้งแต่ได้มาได้ออกงานหนัก ๆ ก็งานนี้แหละ ปกติแล้วแค่ติดรถเอาไว้เฉย ๆ
จริง ๆ แล้วหลวงพ่อกวยท่านก็มาสายไสยศาสตร์เต็ม ๆ แต่ท่านศึกษาไว้ช่วยคน ไว้ช่วยลูกศิษย์ ไว้รักษาคน แต่คราวนี้บรรดาลูกศิษย์บางคนก็อย่างว่าแหละ ซ้อมไว้เล่นชาวบ้านเขา ทั้งพระทั้งฆราวาสเลย พอเป็นแล้วก็ประเภทร้อนวิชา
อาตมาเองก็ขี้เกียจไปรบกันเขานะ เทียนน้ำมนต์ที่อยู่ตรงหน้าแตกเปรี๊ยะแล้วก็ดับไป อาตมาก็สบายใจ เขาอยากจะทำอะไรก็ทำไป ปรากฏว่าทิดเฟิร์ส ทิดดอยมือคัน ดันไปจุดใหม่ จุดใหม่แล้วโดนดับอีกก็เสียหน้า ก็เลยต้องรักษาไว้ คราวนี้ขีปนาวุธบินให้ว่อนเลย ไอ้สองตัวแทบจะไม่มีที่ไป ดันทะลึ่งไปจุดเอง สมน้ำหน้า...! ที่โดนเยอะเพราะว่าแปลกหน้าไป ส่วนใหญ่ของเขาประเภทคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-02-2018 เมื่อ 21:54
|