"ท่านทั้งหลายที่นำมีดหมอมาเข้าพิธี ถ้ามีฝัก ไม่ว่าจะเป็นถุงผ้า ฝักไม้ หรือว่าฝักหนังก็ตาม อย่าทิ้งมีดแช่ไว้ในฝัก หรือถ้าจะใส่ฝักไว้ก็ให้หมั่นถอดออกมาเช็ดถู ไม่อย่างนั้นแล้วความชื้นที่อมอยู่ในฝัก จะทำให้ใบมีดเป็นสนิมได้ง่าย ต่อให้เป็นเหล็กปลอดสนิมก็ไม่ได้ปลอดสนิมอย่างแท้จริง เพราะว่านาน ๆ ไปเนื้อเหล็กก็จะทำลายตัวเอง เพราะว่าทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจนเกิดสนิมขึ้นมา
อย่างที่โบราณบอกว่า สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปรียบไว้ว่า ความชั่วก็เกิดขึ้นในใจของเรา เหมือนสนิมเหล็กที่คอยกัดกินเนื้อเหล็ก จึงต้องหมั่นปัดกวาดเช็ดถู ทำความสะอาดเรือนใจของเราให้ดี เมื่อถึงเวลาจะได้มีจิตใจที่สะอาดผ่องใส ถ้าท่านทั้งหลายสามารถรักษากฎเกณฑ์กติกาเหล่านั้นเอาไว้ได้ ท่านก็จะใช้อานุภาพของวัตถุมงคล โดยเฉพาะมีดหมอรุ่นนี้ ได้เต็มที่อย่างที่ตนเองต้องการ ไม่เช่นนั้นก็คงจะเหลือแค่หนังสติ๊กหรือปืนแก๊ปอย่างที่อาตมาว่ามา
อีกครู่หนึ่ง พระของเราก็เริ่มจุดเทียนสัตตบริภัณฑ์ อย่าลืมว่าตอนจุด ให้จุดตามเข็มนาฬิกา แต่ตอนดับ ให้ดับทวนเข็มนาฬิกา เมื่อทำพิธีบวงสรวงเสร็จ พระภิกษุทั้งหลายก็จะเจริญบทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ คือ อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๑๐ จบ เรื่องราวที่เหลือต่อจากนั้นก็แล้วแต่ว่า พระ หรือ พรหม เทวดา หรือครูบาอาจารย์ ท่านจะสงเคราะห์อย่างไร
วัตถุมงคลรุ่นนี้ต้องบอกว่าท่านปู่พระอินทร์เป็นผู้อนุญาตให้ทำ ท่านบอกว่าขออำนาจของเทพอาวุธให้ ๖ อย่าง อาตมางอนิ้วไล่นับไป ท่านบอกว่า มี วชิราวุธของพระอินทร์ ๑ มีดวงเนตรของพระยายมราช ๑ มีผ้าพันคอของอาฬวกยักษ์ ๑ มีกงจักรของพระนารายณ์ ๑ มีกระบองของท้าวเวสสุวรรณ ๑ อาตมานับแล้วนับอีกได้แค่ ๕ ท่านยืนยันว่า ๖ เมื่อถามว่าอย่างที่ ๖ คืออะไร ? ท่านบอกว่า ความเมตตาเป็นอาวุธที่ไม่มีใครต่อต้านได้ ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายเจริญเมตตาเป็นปกติ อาตมาเชื่อว่ามีดหมอเพชราวุธรุ่นนี้คงจะมีอานุภาพเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็สามารถใช้อานุภาพของมีดหมอได้เต็มที่อย่างที่ต้องการได้"
อ้างอิงจาก...กระทู้งานพุทธาภิเษกมีดหมอ วันเสาร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๘